สโตนเฮนจ์และอวาลอน: ตำนานแห่งดรูอิดและอาเธอร์

Dec

อังกฤษ

สโตนเฮนจ์และอวาลอน: ตำนานแห่งดรูอิดและอาเธอร์

สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) และอวาลอน (Avalon) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ตำนานและวัฒนธรรมของอังกฤษ มีลักษณะโดดเด่นในแบบตนเอง

1.สโตนเฮนจ์ (Stonehenge)

เป็นแหล่งโบราณคดีที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ในมณฑลวิลต์เชียร์ (Wiltshire) ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ห่างจากกรุงลอนดอนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 140 กิโลเมตร เป็นวงหินโบราณที่สร้างขึ้นระหว่างยุคหินใหม่ (Neolithic) และยุคสำริด (Bronze Age) ประมาณ 3,000-2,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช

ลักษณะสำคัญ

- โครงสร้าง: เป็นวงหินขนาดใหญ่ที่ตั้งเรียงกันในลักษณะวงกลม หินเหล่านี้มีสองประเภทคือ

1. ซาร์เซน (Sarsen): หินทรายขนาดใหญ่ที่ใช้สร้างโครงหลัก

2. บลูสโตน (Bluestone): หินขนาดเล็กกว่าที่นำมาจากแคว้นเวลส์

- การจัดวาง: หินถูกวางในลักษณะที่สัมพันธ์กับดาราศาสตร์ เช่น การเรียงตัวของหินบางก้อนสอดคล้องกับการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ในวันครีษมายัน (วันกลางฤดูร้อน)

จุดประสงค์ของการสร้าง

นักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์ยังถกเถียงเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการสร้าง สันนิษฐานได้หลายประการ เช่น:

- ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา

- เป็นสถานที่ประกอบพิธีเกี่ยวกับดาราศาสตร์

- ใช้เป็นสุสาน หรือที่ระลึกถึงบรรพบุรุษ

ความสำคัญทางประวัติศาสตร์

สโตนเฮนจ์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1986 และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก โดยเฉพาะในวันครีษมายัน (Summer Solstice) ที่นักท่องเที่ยวและผู้ศรัทธามารวมตัวเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นผ่านช่องของหินอย่างน่าทึ่ง

2.อวาลอน (Avalon)

เป็นตำนานสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีบทบาทสำคัญในตำนานกษัตริย์อาเธอร์ (Arthurian legend) ของตะวันตก โดยเฉพาะในวรรณคดีอังกฤษยุคกลาง อวาลอนมักถูกกล่าวถึงว่าเป็นเกาะลึกลับที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์และความอุดมสมบูรณ์ มีความเชื่อว่าเป็นที่ซึ่งดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ (Excalibur) ถูกสร้างขึ้น และยังเป็นสถานที่ที่กษัตริย์อาเธอร์ถูกพาไปพักรักษาตัวหลังจากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่คัมแลน (Battle of Camlann)

ในตำนาน อวาลอนถูกอธิบายว่าเป็นสถานที่ที่งดงามราวกับสรวงสวรรค์ เต็มไปด้วยผลไม้ที่ไม่มีวันหมดและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มักจะเกี่ยวข้องกับความเป็นอมตะและการเยียวยา ชื่อ "Avalon" มีรากศัพท์จากภาษาละตินคำว่า *"Aval"*, ซึ่งหมายถึง "เกาะแห่งแอปเปิล" (Isle of Apples)

นอกจากนี้ อวาลอนยังเชื่อมโยงกับตัวละครสำคัญ เช่น เลดี้แห่งทะเลสาบ (Lady of the Lake) และเหล่าแม่มดผู้มีพลังเวทมนตร์ เช่น มอร์แกน เลอ เฟย์ (Morgan le Fay) ผู้ซึ่งเป็นผู้ช่วยเหลืออาเธอร์ในบางตำนาน

อวาลอนมีการตีความในวัฒนธรรมและวรรณกรรมสมัยใหม่ในหลายรูปแบบ เช่น เป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ในอุดมคติ สรวงสวรรค์ หรือดินแดนแห่งจิตวิญญาณ และยังเป็นแรงบันดาลใจในผลงานนิยายแฟนตาซีและศิลปะร่วมสมัยอีกมากมาย