เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์ :

09.00 - 18.00 น.

Hotline

082-585-6868

เราช่วยคุณได้

@mahanakhontour

Travel License : 11/12716

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

การเดินทางผ่านวัฒนธรรมและธรรมชาติ การผจญภัยในกัวเตมาลา

การเดินทางผ่านวัฒนธรรมและธรรมชาติ  การผจญภัยในกัวเตมาลา

28

Nov

กัวเตมาลา

การเดินทางผ่านวัฒนธรรมและธรรมชาติ การผจญภัยในกัวเตมาลา

กัวเตมาลาเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งธรรมชาติที่งดงาม โบราณสถานอันทรงคุณค่า และวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยสีสัน ต่อไปนี้คือสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในกัวเตมาลา

1.ติกัล (Tikal)

เป็นหนึ่งในแหล่งโบราณสถานของชาวมายาที่สำคัญที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในเขต เปเตน (Petén) ทางตอนเหนือของกัวเตมาลา และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี ค.ศ. 1979 ติกัลเคยเป็นศูนย์กลางทางการเมือง ศาสนา และการค้าในยุคคลาสสิกของอารยธรรมมายา
 
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับติกัล
•ประเภท: เมืองโบราณของชาวมายา
•พื้นที่: ครอบคลุมกว่า 576 ตารางกิโลเมตรในอุทยานแห่งชาติติกัล (Tikal National Park)
•ยุคสมัย: เจริญรุ่งเรืองตั้งแต่ประมาณ 200 ปีก่อนคริสตกาลถึงคริสต์ศตวรรษที่ 9
•ความสำคัญ: เป็นแหล่งที่ตั้งของวิหารและโครงสร้างขนาดใหญ่กว่า 3,000 แห่ง รวมถึงจารึกทางประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของชาวมายา
 
สถานที่สำคัญในติกัล
1.วิหารที่ 1 (Temple I หรือ Temple of the Great Jaguar)
-สูง 47 เมตร
-ใช้เป็นสุสานของกษัตริย์ Jasaw Chan K'awiil I
-มีภาพสลักและจารึกที่สำคัญ

2.วิหารที่ 2 (Temple II หรือ Temple of the Masks)
-ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวิหารที่ 1
-ใช้เป็นสถานที่บูชาและเป็นที่เก็บซากของราชินี

3.วิหารที่ 4 (Temple IV)
-สูงกว่า 70 เมตร เป็นโครงสร้างที่สูงที่สุดในติกัล
-จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในวันที่หมอกคลุม

4.Great Plaza
-ลานกว้างกลางเมืองล้อมรอบด้วยวิหารและโครงสร้างสำคัญ
-ใช้สำหรับพิธีกรรมและกิจกรรมทางสังคม

5.Acropolis
-กลุ่มโครงสร้างที่มีทั้งพระราชวังและสุสาน
-มีภาพสลักและจารึกที่บอกเล่าเรื่องราวของราชวงศ์
 
กิจกรรมในติกัล
•สำรวจโบราณสถาน: เดินชมวิหารและซากโครงสร้างของเมือง
•ชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก: วิวจากยอดวิหารที่ 4 เป็นภาพที่สวยงามและน่าประทับใจ
•ดูสัตว์ป่า: ติกัลตั้งอยู่ในเขตป่าฝน ทำให้มีสัตว์ป่า เช่น ลิงฮาวเลอร์ นกทูแคน และจากัวร์
•ศึกษาประวัติศาสตร์มายา: จารึกและสัญลักษณ์ต่าง ๆ ช่วยให้เข้าใจความเชื่อและวัฒนธรรมของชาวมายา
 
เคล็ดลับการเดินทางไปติกัล
1.การเดินทาง
-จากเมืองหลวง (กัวเตมาลาซิตี): นั่งเครื่องบินไปยัง Flores ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนั่งรถไปยังติกัลประมาณ 1.5 ชั่วโมง
-จากเบลีซ: สามารถเดินทางด้วยรถบัสหรือรถส่วนตัว

2.เวลาแนะนำในการเยี่ยมชม
-ช่วงเช้าตรู่เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อน
-ใช้เวลา 1-2 วันเพื่อสำรวจสถานที่ทั้งหมด

3.สิ่งที่ควรเตรียม
-รองเท้าสำหรับเดินป่า
-น้ำดื่มและอาหารว่าง
-สเปรย์กันแมลง

4.ไกด์ท้องถิ่น
-แนะนำให้จ้างไกด์เพื่ออธิบายความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของแต่ละจุด
 
ค่าเข้าชม
•ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติ: ประมาณ 150-200 Quetzals (อาจมีการเปลี่ยนแปลง)
•หากต้องการเข้าชมในช่วงเช้าตรู่หรือเย็นอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

2.ทะเลสาบอาติทลัน (Lake Atitlán)

เป็นทะเลสาบที่งดงามและมีชื่อเสียงที่สุดในกัวเตมาลา ตั้งอยู่ในเขต Sololá ทางตะวันตกของประเทศ เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีต ทำให้เกิดทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยภูเขาไฟ 3 ลูก ได้แก่ โทลิมัน (Tolimán), อาติทลัน (Atitlán) และ ซานเปโดร (San Pedro)


ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับทะเลสาบอาติทลัน
•ความลึก: ประมาณ 340 เมตร (ลึกที่สุดในอเมริกากลาง)
•ต้นกำเนิด: เกิดจากปล่องภูเขาไฟที่ถล่มเมื่อประมาณ 84,000 ปีก่อน
•วัฒนธรรม: รอบทะเลสาบมีหมู่บ้านชนพื้นเมืองหลายแห่ง เช่น ชาวมายา Tz'utujil และ Kaqchikel

หมู่บ้านรอบทะเลสาบที่น่าสนใจ
1.ปานาฆาเชล (Panajachel)
-จุดเด่น: เมืองใหญ่ที่สุดรอบทะเลสาบ เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว
-กิจกรรม: เดินเล่นตลาดขายของที่ระลึก (Calle Santander), ล่องเรือชมทะเลสาบ

2.ซานเปโดร ลา ลากูน่า (San Pedro La Laguna)
-จุดเด่น: หมู่บ้านที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางแบ็คแพ็ค
-กิจกรรม: ปีนภูเขาไฟซานเปโดร, เรียนภาษาสเปน, ชิมกาแฟท้องถิ่น

3.ซานมาร์กอส ลา ลากูน่า (San Marcos La Laguna)
-จุดเด่น: ศูนย์กลางโยคะและการบำบัดแบบจิตวิญญาณ
-กิจกรรม: ฝึกโยคะ, แช่ตัวในน้ำทะเลสาบ, พายเรือ

4.ซานติอาโก อาติทลัน (Santiago Atitlán)
-จุดเด่น: หมู่บ้านใหญ่ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมมายาอย่างเข้มข้น
-กิจกรรม: ชมโบสถ์ San Pedro และบูชาเทพเจ้า Maximon

5.ซานฮวน ลา ลากูน่า (San Juan La Laguna)
-จุดเด่น: หมู่บ้านศิลปะ
-กิจกรรม: ซื้อภาพวาดและงานหัตถกรรม, เยี่ยมชมสตูดิโอศิลปะของชาวพื้นเมือง

กิจกรรมที่น่าสนใจในทะเลสาบอาติทลัน
1.ล่องเรือรอบทะเลสาบ
-ชมวิวภูเขาไฟและหมู่บ้านต่าง ๆ
-ค่าโดยสารเรือโดยสาร (Lancha) ประมาณ 10-25 Quetzals
2.ปีนเขาภูเขาไฟ
-ภูเขาไฟซานเปโดร, โทลิมัน หรืออาติทลัน
-ต้องใช้ไกด์ท้องถิ่นเพื่อความปลอดภัย
3.เดินป่าชมธรรมชาติ
-เส้นทาง Indian Nose เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุด
4.เรียนรู้วัฒนธรรมมายา
-ชมการทอผ้าพื้นเมืองและการทำสีจากธรรมชาติ
-เยี่ยมชมตลาดและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์
5.กิจกรรมทางน้ำ
-พายเรือคายัค, แพดเดิลบอร์ด หรือว่ายน้ำ
6.ซื้อของที่ระลึก
-งานหัตถกรรม เช่น ผ้าทอมือ, เครื่องประดับหยก, และงานศิลปะ
 
เวลาแนะนำในการเยี่ยมชม
•ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายนเป็นฤดูแห้ง ทะเลสาบจะสวยงามที่สุด
•ช่วงเช้าอากาศมักจะสดใสและเหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
 
การเดินทางไปทะเลสาบอาติทลัน
1.จากกัวเตมาลาซิตี
-โดยรถยนต์: ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงถึงปานาฆาเชล
-โดยรถบัส: รถชัทเทิลบัสสำหรับนักท่องเที่ยวให้บริการเป็นประจำ
2.จากอันติกัว
-รถชัทเทิลบัส: ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง
 
สิ่งที่ควรเตรียม
•รองเท้าสำหรับเดินป่า
•เสื้อผ้าที่ใส่สบายสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
•สเปรย์กันแมลงและครีมกันแดด
•น้ำดื่ม




3.เมืองอันติกัว (Antigua)

เป็นเมืองเก่าแก่ที่งดงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในกัวเตมาลา ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงประมาณ 40 กิโลเมตร เมืองนี้เป็นเมืองหลวงเก่าของกัวเตมาลาในช่วงศตวรรษที่ 16-18 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี ค.ศ. 1979
เมืองอันติกัวโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมสเปน ถนนปูหิน และทิวทัศน์ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาไฟ 3 ลูก ได้แก่ ภูเขาไฟอากวา (Agua), ฟวยโก (Fuego) และ อากาเตนานโก (Acatenango)
 
ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับอันติกัว
•ความหมายของชื่อ: "Antigua" หมายถึง "โบราณ" ในภาษาสเปน
•จุดเด่น: เมืองนี้เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรม ศาสนา และศิลปะของกัวเตมาลา
•บรรยากาศ: ผสมผสานความเก่าแก่กับความทันสมัย มีร้านกาแฟ ศูนย์ศิลปะ และร้านค้าหัตถกรรม
 
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในอันติกัว
1.ซุ้มโค้งซานตาคาตาลินา (Santa Catalina Arch)
-สัญลักษณ์ของเมืองอันติกัว
-ซุ้มนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เชื่อมระหว่างอาคารสองฝั่งถนน

2.มหาวิหารซานโฮเซ (San José Cathedral)
-ตั้งอยู่ในจัตุรัสกลางเมือง (Central Plaza)
-โบสถ์ใหญ่ที่เคยเป็นศูนย์กลางทางศาสนา ปัจจุบันบางส่วนเป็นซากปรักหักพัง

3.จัตุรัสกลางเมือง (Plaza Mayor)
-ศูนย์กลางของเมือง ล้อมรอบด้วยโบสถ์และอาคารรัฐบาล
-เป็นที่ตั้งของน้ำพุ "Fuente de las Sirenas"

4.วิหารลาปาเมอร์เซด (La Merced Church)
-โบสถ์สีเหลืองสดใสที่มีสถาปัตยกรรมบาโรก
-ภายในมีภาพวาดทางศาสนาที่งดงาม

5.พิพิธภัณฑ์หยก (Jade Museum)
-แสดงเรื่องราวของหยกในวัฒนธรรมมายา
-มีเครื่องประดับหยกคุณภาพสูงจำหน่าย

6.ตลาดงานหัตถกรรม (Artisan Market)
-ตลาดขายผ้าทอมือ เครื่องปั้นดินเผา และของที่ระลึกพื้นเมือง
-เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาของฝาก

7.ภูเขาไฟฟวยโก (Volcán de Fuego)
-ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น สามารถมองเห็นการปะทุเล็กน้อยในยามค่ำคืน
-นักผจญภัยนิยมปีนภูเขาไฟอากาเตนานโกเพื่อชมวิวภูเขาไฟฟวยโก
 
กิจกรรมในอันติกัว
1.เรียนทำอาหารกัวเตมาลา
-เรียนทำอาหารท้องถิ่น เช่น Pepián (สตูว์เครื่องเทศ) และ Tamales
-โรงเรียนสอนทำอาหารมีหลายแห่ง เช่น El Frijol Feliz
2.ล่องเรือภูเขาไฟ
-ปีนภูเขาไฟปากายา (Pacaya Volcano) เพื่อสัมผัสลาวาร้อน
-มีไกด์นำทางที่เชี่ยวชาญ
3.จิบกาแฟท้องถิ่น
-เยี่ยมชมไร่กาแฟรอบเมือง และเรียนรู้กระบวนการผลิตกาแฟคุณภาพสูง
4.สำรวจพิพิธภัณฑ์และซากโบราณสถาน
-เช่น พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต (Chocolate Museum) และคอนแวนต์ซานโตโดมิงโก (Santo Domingo Convent)
5.ชมเทศกาลประเพณี
-ในช่วงอีสเตอร์ (Semana Santa) เมืองจะเต็มไปด้วยขบวนพาเหรดทางศาสนาและพรมดอกไม้
 
เวลาแนะนำในการเยี่ยมชม
•ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน (ฤดูแห้ง) จะมีอากาศเย็นสบาย
•เทศกาล Semana Santa (อีสเตอร์) เป็นช่วงที่เมืองมีสีสันและกิจกรรมทางวัฒนธรรมมากที่สุด
 
การเดินทางไปอันติกัว
1.จากกัวเตมาลาซิตี
-รถชัทเทิลบัส: ใช้เวลาประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง
-รถแท็กซี่หรือรถส่วนตัว: เป็นตัวเลือกที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว
2.การเดินทางภายในเมือง
-สามารถเดินเท้าสำรวจเมืองได้สะดวก
-มีรถตุ๊กตุ๊กและจักรยานให้เช่า
 
สิ่งที่ควรเตรียม
•รองเท้าสำหรับเดินบนถนนปูหิน
•เสื้อผ้าที่ใส่สบาย เนื่องจากอากาศกลางวันอบอุ่นและกลางคืนเย็น
•กล้องถ่ายรูปสำหรับเก็บภาพสถาปัตยกรรมอันงดงาม

4.ตลาดชีชิคัสเตนังโก (Chichicastenango Market)

ตลาดชีชิคัสเตนังโก (Chichicastenango Market) หรือที่มักเรียกสั้น ๆ ว่า “ตลาดชิชิ” เป็นหนึ่งในตลาดพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในกัวเตมาลา ตั้งอยู่ในเมือง ชีชิคัสเตนังโก ในเขต Quiché ห่างจากเมืองหลวงประมาณ 140 กิโลเมตร
ตลาดนี้เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางการค้าของชาวมายาท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว เต็มไปด้วยสินค้าหัตถกรรม ผ้าทอมือ งานศิลปะ และสินค้าพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับตลาดชีชิคัสเตนังโก
•วันเปิดตลาด: วันพฤหัสบดีและวันอาทิตย์ (เป็นวันที่ตลาดคึกคักที่สุด)
•เวลาเปิดปิด: ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงช่วงบ่าย
•จุดเด่น: เป็นตลาดพื้นเมืองที่สะท้อนวัฒนธรรมมายาและความหลากหลายของกัวเตมาลา
 
สิ่งที่น่าสนใจในตลาดชีชิคัสเตนังโก
1.ผ้าทอมือและเสื้อผ้าพื้นเมือง
-สินค้าที่โดดเด่น ได้แก่ ฮุยปีล (Huipil) ซึ่งเป็นเสื้อพื้นเมืองที่ถักทอด้วยลวดลายสัญลักษณ์มายา
-ผ้าห่ม โสร่ง และสิ่งทอหลากสี

2.งานหัตถกรรมไม้
-หน้ากากไม้แกะสลักที่ใช้ในพิธีกรรมและการแสดง
-เครื่องประดับและของตกแต่งบ้าน

3.สินค้าเซรามิก
-หม้อ ถ้วย และเครื่องปั้นดินเผาที่มีลวดลายสวยงาม

4.ดอกไม้สดและเครื่องบูชา
-มีการขายดอกไม้หลากหลายชนิดสำหรับพิธีกรรมทางศาสนา
-เครื่องบูชาที่ใช้ในพิธีมายา เช่น เทียน ธูป และธัญพืช

5.สินค้าอาหารท้องถิ่น
-ผลไม้ ผักสด และเครื่องเทศพื้นเมือง
-อาหารท้องถิ่น เช่น ตอร์ติญา ทามาเล่ และสตูว์เครื่องเทศ

6.ตลาดกลางแจ้ง (Open-air market)
-ตลาดส่วนใหญ่ตั้งอยู่กลางแจ้ง ล้อมรอบด้วยอาคารโบราณ

7.พิธีกรรมทางศาสนา
-บริเวณโบสถ์ ซานโต โทมัส (Santo Tomás Church) มักมีพิธีกรรมที่ผสมผสานระหว่างความเชื่อมายาและคาทอลิก
 
สถานที่สำคัญใกล้ตลาด
1.โบสถ์ซานโต โทมัส (Santo Tomás Church)
-โบสถ์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี
-บันไดด้านหน้าโบสถ์มักใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมแบบมายา
2.พิพิธภัณฑ์หน้ากาก (Mask Museum)
-จัดแสดงหน้ากากไม้หลากหลายชนิด พร้อมเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมมายา
 
เคล็ดลับการช้อปปิ้งที่ตลาดชีชิคัสเตนังโก
1.เตรียมต่อรองราคา
-การต่อรองเป็นธรรมเนียมปฏิบัติทั่วไปในตลาด
2.สำรวจตลาดก่อนซื้อ
-ตลาดกว้างใหญ่และมีหลายโซน ควรสำรวจให้ทั่วก่อนตัดสินใจซื้อ
3.เงินสดสำคัญที่สุด
-ควรพกเงินสด โดยเฉพาะสกุล Quetzal (สกุลเงินของกัวเตมาลา)
4.ระวังของมีค่า
-เนื่องจากตลาดมีคนพลุกพล่าน ควรระมัดระวังทรัพย์สินส่วนตัว
5.ขออนุญาตถ่ายภาพ
-โดยเฉพาะเมื่อต้องการถ่ายภาพผู้คนหรือพิธีกรรม ควรขออนุญาตก่อน
 
การเดินทางไปตลาดชีชิคัสเตนังโก
1.จากเมืองอันติกัว 
-รถชัทเทิลบัสใช้เวลาประมาณ 2.5-3 ชั่วโมง
2.จากกัวเตมาลาซิตี 
-ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงโดยรถยนต์หรือรถบัส
 
สิ่งที่ควรเตรียม
•รองเท้าสำหรับเดิน
•กระเป๋าสะพายที่ปิดมิดชิด
•เสื้อผ้าสำหรับอากาศเย็นในช่วงเช้าและเย็น

5.เซมุก ชัมเปย์ (Semuc Champey)

เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่นที่สุดในกัวเตมาลา ตั้งอยู่ในเขต อัลตา เวราปาซ (Alta Verapaz) ใกล้กับเมือง ลันกิน (Lanquín) ที่นี่คือสวรรค์ของนักเดินทางที่รักการผจญภัยและธรรมชาติ
ชื่อ "Semuc Champey" ในภาษาพื้นเมืองมายา Kekchi หมายถึง "น้ำที่ไหลใต้ดิน" ซึ่งสะท้อนลักษณะพิเศษของพื้นที่แห่งนี้

จุดเด่นของเซมุก ชัมเปย์
1.สระน้ำสีฟ้าเทอร์ควอยส์
-สระน้ำธรรมชาติ (Limestone Pools) ที่ไหลเรียงตัวลดหลั่นเป็นชั้น ๆ
-สีของน้ำเปลี่ยนไปตามแสงแดด ตั้งแต่สีฟ้าเทอร์ควอยส์จนถึงเขียวมรกต

2.แม่น้ำใต้ดิน
-แม่น้ำคาฮาบอน (Cahabón River) ไหลลอดใต้ชั้นหินปูน ทำให้เกิดความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ

3.จุดชมวิว “El Mirador”
-จุดชมวิวบนยอดเขา สามารถมองเห็นสระน้ำและป่าเขียวชอุ่มในมุมกว้าง
-ต้องเดินป่าประมาณ 30-45 นาที
 
กิจกรรมที่น่าสนใจในเซมุก ชัมเปย์
1.แช่ตัวและว่ายน้ำในสระธรรมชาติ
-สระน้ำเย็นสดชื่นเหมาะสำหรับการพักผ่อน
2.เดินป่าสำรวจธรรมชาติ
-เส้นทางเดินป่าที่นำไปสู่จุดชมวิว El Mirador เป็นการท้าทายที่คุ้มค่า
3.ล่องห่วงยางตามแม่น้ำคาฮาบอน
-กิจกรรมยอดนิยมที่ให้คุณลอยตัวไปตามกระแสน้ำพร้อมชมธรรมชาติรอบข้าง
4.สำรวจถ้ำคานดูล (K'an Ba Cave)
-ถ้ำที่เต็มไปด้วยน้ำ ใครที่ชอบความตื่นเต้นสามารถว่ายน้ำและปีนป่ายภายในถ้ำ
5.กระโดดน้ำจากน้ำตก
-เหมาะสำหรับนักผจญภัยที่ไม่กลัวความสูง
 
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทาง
1.เส้นทางการเดินทาง
-การเดินทางไปเซมุก ชัมเปย์ค่อนข้างท้าทาย โดยเฉพาะถนนที่คดเคี้ยวและลำบากในช่วงสุดท้าย
-ควรเดินทางด้วยรถ 4x4 หรือจ้างคนขับท้องถิ่น
2.ฤดูกาลที่เหมาะสม
-ช่วงฤดูแล้ง (พฤศจิกายน-เมษายน) น้ำในสระจะใสและสวยที่สุด
3.เวลาเปิดปิด
-เปิดทุกวัน: 08:00-18:00 น.
4.สิ่งที่ควรเตรียม
-รองเท้าสำหรับเดินป่า
-ชุดว่ายน้ำและเสื้อผ้าแห้งง่าย
-ยากันแมลงและครีมกันแดด
-ไฟฉาย (สำหรับเข้าถ้ำ)
 
การเดินทางไปเซมุก ชัมเปย์
1.จากกัวเตมาลาซิตี
-นั่งรถชัทเทิลบัสประมาณ 8-10 ชั่วโมงไปยังเมืองลันกิน
-จากลันกิน ต้องนั่งรถกระบะหรือ 4x4 อีกประมาณ 45 นาที
2.จากเมืองอันติกัว
-ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมงโดยรถชัทเทิลบัส
 
คำแนะนำพิเศษ
1.การพักค้างคืน
-มีที่พักใกล้เซมุก ชัมเปย์ เช่น โฮสเทลและที่พักแบบอีโคลอดจ์ในลันกิน
-แนะนำให้พักอย่างน้อย 2 คืนเพื่อสัมผัสธรรมชาติอย่างเต็มที่
2.การจองทัวร์
-ทัวร์ท้องถิ่นมักรวมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินป่า สำรวจถ้ำ และล่องห่วงยาง
3.การดูแลสิ่งแวดล้อม
-หลีกเลี่ยงการทิ้งขยะในพื้นที่ธรรมชาติ

6.เมืองลิวิ่งสตัน (Livingston)

ตั้งอยู่ทางชายฝั่งทะเลแคริบเบียนของกัวเตมาลา เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นทั้งในเรื่องของวัฒนธรรม ธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ในเขต Izabal และสามารถเข้าถึงได้จากเมือง Puerto Barrios ผ่านทางเรือ
ลิวิ่งสตันเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยเฉพาะอิทธิพลของชาว Garífuna ซึ่งเป็นกลุ่มชนที่มีเชื้อสายแอฟริกันผสมกับชนพื้นเมืองของแคริบเบียน ลิวิ่งสตันจึงมีทั้งภาษา วัฒนธรรมดนตรี และการเต้นรำที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงอาหารและวิถีชีวิตที่สะท้อนถึงความหลากหลา

จุดเด่นของเมืองลิวิ่งสตัน
1.ชายหาดที่เงียบสงบ
-ลิวิ่งสตันมีชายหาดที่สวยงามและเงียบสงบ เช่น Playa Blanca และ Playa Punta de Palma ซึ่งเหมาะสำหรับการพักผ่อนและเพลิดเพลินกับทะเลแคริบเบียน
-สามารถว่ายน้ำ หรือเดินเล่นริมชายหาดได้ในบรรยากาศที่เงียบสงบ

2.วัฒนธรรม Garífuna
-ชาว Garífuna เป็นชนพื้นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีอิทธิพลอย่างมากในเมือง
-การเต้นรำแบบ Punta และ Hungu-Hungu เป็นกิจกรรมที่มีการแสดงตามเทศกาลและงานเฉลิมฉลองในเมือง
-อาหารของชาว Garífuna เช่น Hudut (ปลาต้มกับกล้วย) และ Tamalitos de Elote (ขนมข้าวโพด)

3.การเดินทางโดยเรือ
-เพื่อเข้าถึงลิวิ่งสตัน นักท่องเที่ยวจะต้องนั่งเรือจาก Puerto Barrios หรือจาก Rio Dulce ซึ่งเป็นเส้นทางน้ำที่สวยงามและให้คุณได้เห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำและป่าเขตร้อน
-การเดินทางด้วยเรือช่วยเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์และทำให้การเยี่ยมชมลิวิ่งสตันสนุกสนานยิ่งขึ้น

4.อุทยานแห่งชาติ Rio Dulce
-Rio Dulce คือแม่น้ำที่เชื่อมระหว่างทะเลแคริบเบียนและทะเลสาบ Izabal
-อุทยานแห่งชาติ Rio Dulce มีทั้งทิวทัศน์ของป่าเขตร้อนและน้ำตกที่สวยงาม
-การล่องเรือในแม่น้ำ Rio Dulce จะพานักท่องเที่ยวผ่านไปยังทิวทัศน์ของน้ำตก Finca El Paraíso ที่มีน้ำตกที่สามารถอาบน้ำได้

5.เกาะ Castillo de San Felipe
-ตั้งอยู่ในทะเลสาบ Izabal ใกล้กับลิวิ่งสตัน
-เป็นปราสาทเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในช่วงยุคอาณานิคมของสเปนเพื่อปกป้องพื้นที่จากการโจมตีของโจรสลัด
 
กิจกรรมที่น่าสนใจในลิวิ่งสตัน
1.การสำรวจป่าเขตร้อน
-มีการเดินป่าและการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ Rio Dulce หรือ Cascadas de Agua Caliente ซึ่งมีน้ำพุร้อนธรรมชาติ
2.การดำน้ำ
-การดำน้ำตื้นหรือดำน้ำลึกที่ชายหาดรอบ ๆ ลิวิ่งสตัน เพื่อชมโลกใต้ทะเลแคริบเบียนที่เต็มไปด้วยปะการังและสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด
3.ทัวร์ท้องถิ่นและสัมผัสชีวิตของชาว Garífuna
-นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้การเต้นรำแบบ Garífuna หรือร่วมงานเทศกาลและกิจกรรมของชาวบ้าน
4.ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก
-การล่องเรือชมวิวทะเลแคริบเบียนในช่วงพระอาทิตย์ตกดินเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูง
 
การเดินทางไปเมืองลิวิ่งสตัน
1.จากกัวเตมาลาซิตี
-นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากกัวเตมาลาซิตีไปยังเมือง Puerto Barrios (ประมาณ 5 ชั่วโมงโดยรถยนต์)
-จากนั้นต้องเดินทางด้วยเรือประมาณ 1 ชั่วโมงไปยังลิวิ่งสตัน
2.จากเมือง Rio Dulce
-ล่องเรือจาก Rio Dulce ไปยังลิวิ่งสตัน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
 
สิ่งที่ควรเตรียม
•เสื้อผ้า: เสื้อผ้าที่เหมาะสำหรับสภาพอากาศร้อนและชื้น รวมถึงรองเท้าที่เหมาะสมสำหรับการเดินป่า
•ครีมกันแดด และ ยากันแมลง: สำหรับการเดินทางในพื้นที่เขตร้อน
•กล้องถ่ายรูป: เพราะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและน่าสนใจมากมาย
•เงินสด: แม้ว่าจะมีเครื่อง ATM แต่ในบางพื้นที่ยังคงใช้เงินสดเป็นหลัก
 



จำนวนผู้เข้าชม 42 ครั้ง