27
Nov
ไอซ์แลนด์
ไอซ์แลนด์ ดินแดนแห่งธรรมชาติที่ไม่มีที่ไหนเหมือน
ประเทศไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก ไม่เพียงแต่สำหรับนักผจญภัยที่แสวงหาความตื่นเต้นเร้าใจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้รักธรรมชาติที่มองหาสิ่งที่แตกต่างออกไปด้วย แหล่ง ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ คุณจะได้พบกับภูเขาไฟที่ยังไม่ดับและปะทุอยู่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก น้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน บ่อน้ำร้อนกลางแจ้ง ธารน้ำแข็ง ทุ่งน้ำแข็ง และฟยอร์ด
ปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerid Crater)
ปล่องภูเขาไฟเคริด นั้นเป็นปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว อีกทั้งยังเป็นปล่องภูเขาไฟที่สังเกตง่าย และเห็นได้อย่างชัดเจนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นปล่องภูเขาไฟที่อายุน้อยที่สุดแต่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหลุมอุกกาบาตที่เห็นได้ชัดเจนและสวยงามที่มีทะเลสาบอยู่ตรงกลาง ซึ่งก่อตัวขึ้นจากการปะทุเมื่อ 3,000 ปีมาแล้ว
น้ำตกเดตตี้ฟอสส์ (Dettifoss)
เป็นน้ำตกที่ใหญ่และไหลแรงมากที่สุดของยุโรป เป็นอีกจุดที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเมื่อไปเยือนไอซ์แลนด์ และน้ำตกแห่งนี้ยังเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายภาพยนตร์อันโด่งดังเรื่อง Prometeus อีกด้วย น้ำตกเดตตี้ฟอสส์ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull National Park) อุทยานแห่งนี้เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยเป็นพื้นที่ที่ได้รวมเอาอุทยานแห่งชาติสกาฟทาเฟล (Skaftafell National Park) และอุทยานแห่งชาติ Jokulsargljufur เข้าด้วยกัน
ทะเลสาบธารน้ำแข็งหิมะโจกุลซาลอน (Jokulsarlon)
ธารน้ำแข็งพันปีแห่งนี้ เป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ และใหญ่เป็นอันดับสามของโลก เป็นหนึ่งในอัญมณียอดมงกุฏตามธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์ โดยอยู่ทางทิศใต้ตรงปลายทางของธารน้ำแข็งพันปี วัทนาโจกุล อยู่ระหว่างอุทยานแห่งชาติสเกฟตาลเฟลล์ (Skeftalfell National Park) และเมืองฮอฟน์ (Hofn) เกิดขึ้นโดยธรรมชาติจากการละลายของน้ำในธารน้ำแข็งและการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
น้ำตกเฮงกิฟอสส์ (Hengifoss)
เฮงกิฟอสส์ (Hengifoss) เป็นน้ำตกที่ไหลจากแม่น้ำเฮงกิฟอสซาในเขตเทศบาลเมือง Fljótsdalshreppur ทางตะวันออกของไอซ์แลนด์ ด้วยความสูง 128 เมตร (420 ฟุต) ทำให้เป็นน้ำตกที่สูงเป็นอันดับสามของประเทศ มีส่วนประกอบของหินสีแดงที่เกิดจากการ oxidation ของแร่เหล็กในโคลน แทรกตัวอยู่ระหว่างชั้นของกินบะซอลล์อายุราว 5-6 ล้านปี ที่เรียงตัวซ้อนกันเป็นชั้นๆ สีปูนแดงซึ่งทำให้น้ำตกแห่งนี้ดูสวยงามยิ่งขึ้น
เมืองอาคูเรย์ริ (Akureyri)
เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ รองจากเมืองหลวงเรคยาวิก (Reykjavik) ตั้งอยู่ในภูมิภาคทางตอนเหนือของประเทศ โดยเมืองนี้ถูกขนานนามว่าเป็น “เมืองหลวงของตอนเหนือ” และเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงดงามและเสน่ห์ของธรรมชาติที่น่าทึ่งของไอซ์แลนด์
ทะเลสาบมิวาทน์ (Lake Mý vatn)
เป็นทะเลสาบที่สวยงามและเป็นพื้นที่ที่มีเกาะเล็กๆ มากมายทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ อีกทั้งยังเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศด้วย เนื่องจากมีความเงียบสงบ นกนานาชนิด และภูเขาไฟ ทะเลสาบรวมถึงพื้นที่โดยรอบจึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในประเทศ
บลูลากูน (Blue Lagoon)
บลูลากูนเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีอุณหภูมิเหมาะสมสำหรับการลงไปแช่ โดยเฉลี่ยแล้วน้ำที่นี่จะมีอุณหภูมิ 39°C หรือ 102°F บลูลากูนตั้งอยู่บนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Peninsula) ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ ที่นี่เหมาะกับการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกหลังจากเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์และเป็นจุดสุดท้ายก่อนที่จะเดินทางออกจากประเทศไอซ์แลนด์
ภูเขาเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell)
ภูเขาเคิร์กจูเฟล หรือที่หลายคนอาจรู้จักในชื่อภาษาอังกฤษ อย่าง Church Mountain หรือ “ภูเขาโบสถ์” ด้วยรูปทรงที่มีลักษณะเป็นรูปทรงกรวยคว่ำคล้ายกับรูปทรงของโบสถ์ หากแต่บ้างก็ว่าคล้ายกับรูปทรงของหมวกแม่มด แต่ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ ตัวภูเขามีลักษณะเป็นชั้น ๆ ไล่ระดับเฉดสีกัน สูง 463 เมตร โดยชั้นล่างสุดจะเป็นฟอสซิล ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดตั้งแต่ยุคน้ำแข็งเป็นล้านปีมาแล้ว ส่วนชั้นบนเป็นหินลาวา เกิดในช่วงที่ยุคน้ำแข็งเริ่มอุ่นขึ้นและมีอายุหินน้อยกว่าชั้นล่าง
ถ้ำน้ำแข็ง (Skaftafell Ice Cave)
ถ้ำ ICE CAVE หรือที่นิยมเรียกกันอีกอย่างว่า ถ้ำน้ำแข็งคริสตัล หรือ ถ้ำคริสตัล (Crystal Ice Cave) คือ ถ้ำน้ำแข็งที่สวยงามตระการตาในเมืองสตัฟทาเฟล (Skaftafell) เป็นถ้ำที่เกิดในทะเลสาบแช่แข็งทะเลสาบที่เกิดจากธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์โจกุล (Svínafellsjökull Glacier) โดยถ้ำแห่งนี้มีปากถ้ำที่เป็นปล่องน้ำแข็งสูงประมาณ 22 ฟุต แต่เนื่องจากสภาพอุณหภูมิที่ค่อนข้างมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย รูปแบบของถ้ำน้ำแข็งจึงไม่ค่อยแน่นอน และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
หาดทรายดำ เรย์นิสฟายารา (Reynisfjara Beach)
หาดทรายดำ เรย์นิสฟายารา (Reynisfjara Beach) หนึ่งในหาดทรายสีดำที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก เป็นเม็ดทรายที่เกิดจากการสะสมกันของหินลาวาที่สึกกร่อน และแนวหินบะซอลต์ที่ถูกพัดไปสะสมตัวบริเวณชายหาด ทำให้บรรยากาศรอบด้านมีความอึมครึม แต่ก็ดูสวยงามและลึกลับ
น้ำตกดินยันดิ (Dynjandi)
เป็นน้ำตกเพียงแห่งเดียวในลิสต์นี้ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคนั้น น้ำตกอยู่ใกล้กับอ่าวดินยานดิชโวกูร์ (Dynjandisvogur bay) และฟยอร์ดอาร์นาร์ฟยอร์ดูร์ (Arnarfjordur fjord) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องการดูนกนานาชนิด รวมถึงมีทิวทัศน์ธรรมชาติและแนวชายฝั่งที่งดงาม น้ำตกดินยันดิได้ชื่อว่าเป็น "อัญมณีแห่งฟยอร์ดทางตะวันตก" (หรือฟยาลล์ฟอสส์) แห่งนี้ไหลลดหลั่นจากความสูง 100 เมตร น้ำตกมีรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู บริเวณด้านบนน้ำตกกว้าง 30 เมตร และด้านล่างกว้าง 60 เมตร
ฟยาดราร์กยูฟูร์ (Fjadrargljufur)
เป็นช่องเขาที่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งโบราณที่พยายามกัดเซาะชั้นลาวาภูเขาไฟในบริเวณนี้ จนเกิดเป็นแนวช่องแคบยาวประมาณ 2 กิโลเมตร และลึก 100 เมตร เป็นหุบเขาที่มีความยิ่งใหญ่และสวยงามอีกแห่งหนึ่ง
น้ำพุร้อนกีเซอร์ (Geysir)
น้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ใน Haukadalur ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ สามารถพบได้เพียงไม่กี่แห่งในโลก จึงจัดได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมมชาติที่หาดูได้ยากชนิดหนึ่ง กีเซอร์มักจะตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณภูเขาไฟที่ยังสามารถระเบิดได้อยู่และได้รับผลจากแม็กมาในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย โดยทั่วไปแล้วที่ความลึกประมาณ 2.2 กิโลเมตร (6,600 ฟุต) จะเป็นบริเวณที่ผิวน้ำพบกับหินร้อน และด้วยเหตุนี้เองทำให้น้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้น ภายใต้ความดันใต้พื้นผิวโลกจนทำให้เกิดปรากฏการณ์กีเซอร์ที่ปลดปล่อยกระแสน้ำรุนแรง ร่วมกับไอน้ำออกมาได้ ซึ่งแรงพุ่งของสายน้ำพุร้อนจากใต้ดินขึ้นมาสู่ผิวโลกนั้น จะเกิดขึ้นในทุกๆ 7-10 นาที หรือบางวันก็ยังปะทุต่อเนื่องตลอดวันตลอดคืน จึงส่งผลให้เกิดความงดงามตามธรรมชาติได้อย่างน่ามหัศจรรย์
ทุ่งลาวามอสส์ (Moss lava field)
เป็นทุ่งลาวาที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ
โดยภายหลังจากการระเบิดผ่านไปหลายร้อยปี
หินลาวาพวกนี้ก็จะถูกปกคลุมด้วยมอสส์สีเขียวซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ดูราวกับพรมหนา ๆ
และเกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม
กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมเยือน
หุบเขาลานมันนาเลยการ์ (Landmannalaugar)
ลานมันนาเลยการ์ (Landmannalaugar) หรือ "สระน้ำของผู้คน" เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ที่มีความงามอันน่าทึ่งและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในใจกลางพื้นที่ไฮแลนด์ทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ มีชื่อเสียงในด้านภูเขาไรโอไลท์หลากสีสันที่มีชีวิตชีวาและน้ำพุร้อนใต้พิภพ มีกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลายประเภท เช่น เดินป่า อาบน้ำในบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ และสำรวจทุ่งลาวาและถ้ำหินออบซิเดียน