เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์ :

09.00 - 18.00 น.

Hotline

082-585-6868

เราช่วยคุณได้

@mahanakhontour

Travel License : 11/12716

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

ซัปโปโร 15 ที่เที่ยวในเมืองหิมะ

ซัปโปโร  15 ที่เที่ยวในเมืองหิมะ

25

Nov

ญี่ปุ่น

ซัปโปโร 15 ที่เที่ยวในเมืองหิมะ

สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นพลาดไม่ได้เลยกับเมืองซัปโปโร เมืองหิมะแสนโรแมนติกที่เหมาะกับการพักผ่อน สามารถมาท่องเที่ยวได้ในทุกฤดูกาล หากต้องการที่จะมาเล่นหิมะ ควรมาเที่ยวในฤดูหนาว ซึ่งหน้าหนาวที่ซัปโปโรนั้น อุณหภูมิจะลดต่ำถึงขั้นติดลบ หรือถ้าหากอยากชมดอกไม้สวย ๆ ก็ควรจะมาในฤดูร้อนที่มีดอกไม้บานมากมาย หากพร้อมแล้ว มาดูไอเดียในการหาสถานที่ท่องเที่ยวในซัปโปโรกันเลย

ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (Hokkaido Government Office)

ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่าหรือที่เรียกกันว่า ทำเนียบอิฐแดง เป็นอาคารที่ถูกสร้างตามแบบนีโอบาโรกของอเมริกาในปี ค.ศ. 1888 อาคารแห่งนี้เคยเกิดไฟไหม้บริเวณหลังคาส่วนกลาง ส่วนอาคารที่เราเห็นทุกวันนี้เป็นส่วนที่สร้างขึ้นมาใหม่ ภายในอาคารมีการจัดแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์, ภูมิศาสตร์, งานศิลปะ และเรื่องราวความเป็นมาต่าง ๆ ของฮอกไกโดไว้อย่างครบถ้วน เรียกได้ว่าใครที่กำลังมองหาสถานที่เที่ยวที่ได้ทั้งความรู้และจุดถ่ายรูปสวยๆ ต้องห้ามพลาด

หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower)

1 ในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในซัปโปโร ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของวิทยาลัยเกษตรซัปโปโร ซึ่งอยู่ฝั่งทิศใต้ของสถานีซัปโปโร ใช้เวลาในการเดินประมาณ 10 นาที อยู่ห่างจากสวนสาธารณะโอโดริเพียง 5 นาที ตัวอาคารของหอนาฬิกาสร้างขึ้นต้นสมัยพัฒนาซัปโปโร ในปี 1878 เรือนนาฬิกาซื้อมาจากกรุงบอสตัน

โดยปัจจุบันนั้นหอนาฬิกาแห่งนี้ได้มีการปรับปรุงจนกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจได้เข้าชม ภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสิ่งก่อสร้าง โดยแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ในชั้นที่ 1 จะเน้นการจัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราว เกร็ดความรู้ และประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร และในชั้นที่ 2 จะจัดแสดงเกี่ยวกับนาฬิกา และยังมีส่วนห้องโถงสำหรับทำพิธีการต่างๆ ที่กว้างขวางอีกด้วย

สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park)

สวนสาธารณะโอโดริ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร ถือเป็นหัวใจหลักของเมือง จากการเป็นสวนที่แบ่งเมืองออกเป็นเขตเหนือและใต้ และมีถนนสายหลักตัดผ่านโดยรอบสำหรับเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ของเมือง โดยมีหอโทรทัศน์ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของสวนเป็นจุดสังเกต ภายในมีสวนดอกไม้หลากหลายพันธุ์ น้ำพุ และงานประติมากรรมกลางแจ้งต่างๆ

นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับจัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆ ของเมือง อย่างเช่นเทศกาลดอกไม้นานาชาติในช่วงฤดูร้อน และเทศกาลหิมะซัปโปโรในช่วงฤดูหนาว เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นที่จัดงานเทศกาลขึ้นชื่อของฮอกไกโดมากมายในตลอดทุกฤดูกาล เช่น ฤดูใบไม้ผลิมีเทศกาลดอกไลแล็ค ฤดูร้อนมีเทศกาล YOSAKOI โซรันและเบียร์การ์เด้น ฤดูใบไม้ร่วงมีเทศกาลออทั่มเฟส และในฤดูหนาวมีเทศกาลหิมะซึ่งพัฒนามาเป็นเทศกาลระดับโลก


โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen)

โจซังเคออนเซ็นเป็นเมืองน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ณ อุทยานแห่งชาติชิโคสึ-โทยะ ที่มีโรงแรมเรียวกังกว่า 20 แห่ง และสามารถเดินทางจากตัวเมืองซัปโปโรได้ในเวลา 1 ชั่วโมงเท่านั้น เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของฮอกไกโด ที่มีผู้มาเยี่ยมเยือนกว่า 1.4 ล้านคนต่อปี

พระสงฆ์ชื่อมิซุมิ โจซังได้สร้างสปาบริเวณตอนบนของแม่น้ำใน ค.ศ. 1866 น้ำในสปาประกอบด้วยแร่ธาตุหลากหลายชนิด ทั้งโซเดียมคลอไรด์ กำมะถัน และโซเดียมไบคาร์บอเนต น้ำพุร้อนชนิดนี้เป็นหนึ่งในน้ำพุที่เป็นที่นิยมที่สุดในญี่ปุ่น เนื่องจากดีต่อผิว ภาวะอ่อนแรง แผลโดนบาด แผลจากไฟไหม้น้ำร้อนลวก ช่วยคลายความอ่อนล้า และอื่น ๆ อีกมากมาย

ซัปโปโร โคคุไซ สกีรีสอร์ท (Sapporo Kokusai Ski Resort)

ซัปโปโร โคคุไซ สกีรีสอร์ทเป็นจุดหมายในการท่องเที่ยวอันสวยงามในฤดูใบไม้ร่วงและเป็นลานสกีอย่างดีที่เปิดนานยิ่งกว่าลานอื่นๆ ในฤดูหนาว จากด้านบนสุดของสถานีกระเช้าลอยฟ้า จะสามารถมองเห็นไปถึงมหาสมุทรในวันที่อากาศดี ในช่วงฤดูเล่นสกี มีบริการรถบัสทุกวันโดยจอดที่ใจกลางซัปโปโรและบริเวณโจซังเค อนเซ็น ที่นี่มีสโนว์ปาร์คให้เด็ก ๆ เล่นลากเลื่อนและบันไดเลื่อนหิมะสำหรับผู้เริ่มต้นเล่นสกี

สวนสัตว์มารุยามะ (Sapporo Maruyama Zoo)

สวนสัตว์มารุยามะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับทั้งครอบครัวที่อยู่ใกล้กับตัวเมืองซัปโปโร  ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1951 ในบริเวณใกล้กับสวนมารุยามะ และศาลเจ้าฮอกไกโด  นั้นก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1951 ในบริเวณใกล้กับสวนมารุยามะถือว่าเป็นสวนสัตว์แห่งแรกในเมืองซัปโปโร

และด้วยพื้นที่รอบ ๆ สวนสัตว์ที่รายล้อมไปด้วยป่าอันเขียวชอุ่ม สวนสัตว์นี้จึงเป็นหนึ่งในสวนสัตว์ที่อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ภายในสวนสัตว์มีการแบ่งโซนจัดแสดงสัตว์ไว้อย่างชัดเจน และมีมุมถ่ายรูปสวยๆและสัตว์ต่างๆที่น่าสนใจมากมาย แต่ที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือเจ้าแพนด้าแดงและหมีขั้วโลกที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ

โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิ โคบิโตะ (Shiroi Koibito Park)

เป็นโรงงานของบริษัทอิชิยะ ผู้ผลิตขนมคุกกี้แผ่นบางกรอบประกบไวท์ช็อกโกแลต ของฝากจากฮอกไกโดชื่อดัง ที่นี่มีชื่อเดิมว่าโรงงานช็อคโกแลตอิชิยะ (Ishiya Chocolate Factory ) แต่ต่อมา ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นโรงงานช็อคโกแลตชิโรอิ โคบิโตะ (Shiroi Koibito Park) เป็นโรงงานเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในการผลิตช็อคโกแลต ซึ่งที่นี่เป็นโรงงานผลิตช็อคโกแลตอันเลื่องชื่ออย่าง Shiroi Koibito คุกกี้สอดไส้ไวท์ช็อคโกแลต จากฮอกไกโดที่ว่ากันว่าอร่อยที่สุดในญี่ปุ่น

ตัวอาคารตกแต่งประดับประดาด้วยตุ๊กตา ของสะสมสวยงามต่างๆ นอกจากนี้ภายในบริเวณของโรงงานผลิตช็อคโกแลตยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ สวนสำหรับนั่งเล่น มีร้านอาหารอร่อยๆ ให้ได้เลือกชิมกันได้อย่างจุใจ อีกทั้งยังมีสวนดอกไม้ให้ชมอีกด้วย หนึ่งในนั้นคือ โรสการ์เดน หรือสวนกุหลาบ ในช่วงหน้าร้อนดอกกุหลาบจะบานสะพรั่งสวยไปทั้งสวนและมีกุหลาบมากกว่า 200  ต้น

พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านฮอกไกโด (Historical Village of Hokkaido)

ตั้งอยู่ในย่านชานเมืองซัปโปโรของฮอกไกโด นับเป็นพิพิธภัณฑ์สไตล์แบบกลางแจ้งขนาดใหญ่มากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง เนื่องจากภายในพื้นที่มีอาคารแสดงนิทรรศการมากถึง 60 หลัง โดยมีการจัดแสดงประวัติความเป็นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของฮอกไกโดตั้งแต่สมัยเมจิ และไทโชราวๆปี ค.ศ.1868-1926 สามารถแบ่งออกเป็นโซน 4 โซน ได้แก่ เมือง หมู่บ้านชาวประมง หมู่บ้านฟาร์ม และหมู่บ้านบนภูเขา

ตรงทางเข้าหลักของหมู่บ้าน คือ อาคารสถานีซัปโปโรเก่า  และเมื่อเข้าสู่หมู่บ้าน จะสามารถเพลิดเพลินด้วยการเที่ยวชม ด้วยรถรางเลื่อนเทียมม้าในฤดูร้อน และด้วยเลื่อนสกีเทียมม้าในฤดูหนาว นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม ที่ทำให้ผู้เข้าชมได้รับประสบการณ์ และการเรียนรู้เกี่ยวกับ ขนบธรรมเนียมวัฒนธรรม ในสมัยยุคบุกเบิก ได้แก่ การประดิษฐ์เครื่องเล่นสมัยโบราณ, งานฝีมือจากฟาง และอื่นๆ รวมไปถึงกิจกรรมในการเรียนรู้ และประสบการณ์ความยากลำบาก ของการใช้ชีวิตในฤดูหนาว ของยุคบุกเบิกอีกด้วย

ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hok kaido Shrine)

ศาลเจ้าฮอกไดโดแห่งนี้มีชื่อเต็มว่า “ศาลเจ้าฮอกไกโดจิงกู (Hokkaido-jingu Shrine)” เป็นศาลเจ้าของศาสนาพุทธนิกายชินโตที่มีความเก่าแก่แห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโด  โดยศาลเจ้าแห่งนี้ มีการอัญเชิญเทพเจ้ามาประทับภายในศาลเจ้ามากถึง 4 องค์

ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงยุคสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ เพื่อเป็นสิริมงคลและความสงบสุขให้แก่ชาวฮอกไกโด ด้วยความเก่าแก่และมีประวัติมายาวนานจึงทำให้ศาลนี้มีอายุมากกว่า 150 ปี (ถูกสร้างในช่วงประมาณปี ค.ศ.1871)

เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha)

เนินเขาแห่งพระพุทธเจ้า นี้ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของสุสาน Takino Cemetery ที่เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น มีลักษณะเป็นเนินเขาที่เต็มไปด้วยทุ่งลาเวนเดอร์กว่า 15,000 ต้น ล้อมรอบพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ซึ่งอยู่ภายในอุโมงค์ใต้ดินที่ลึกลงไป ทำให้บางมุมสามารถเห็นได้แค่ส่วนศีรษะขององค์พระเท่านั้น หากอยากเห็นพระพุทธรูปองค์เต็ม จะต้องลงไปในอุโมงค์ทางด้านล่างที่ถูกขุดไว้ และมองย้อนขึ้นมา นับว่าเป็นที่เที่ยวในซัปโปโรที่คนยังไม่รู้จักมากนัก

ตลาดนิโจ (Nijo Market)

ตลาดนิโจ (Nijo Market) ในเมืองซัปโปโร เป็นตลาดซีฟู้ดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “ห้องครัวของเมืองซัปโปโร” กันเลยทีเดียว ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการลิ้มลองรสชาติอาหารทะเลสดๆ ไม่ว่าจะเป็นปูหิมะยักษ์ หอยเชลล์ หอยเม่น ปลาหมึก หอยนางรม  ปลาแซลมอนในราคาไม่แพงก็สามารถมาลิ้มลองได้ที่ตลาดแห่งนี้ โดยที่นี่ยังมีบริการสั่งอาหารและมีการปรุงอาหารกันสดๆ บางร้านมีโต๊ะเล็กๆ สำหรับไว้ให้ลูกค้านั่งรับประทานเรียงรายอยู่บนถนน นอกจากตลาดปลานิโจจะมีอาหารทะเลสดๆ แล้วยังมีอาหารทะเลแห้งซึ่งบรรจุเเพ็คเกจสวยงามไว้จำหน่ายเป็นของฝากของที่ระลึกอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)

อีก 1 ในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของฮอกไกโด  เรียกได้ว่า เป็นแหล่งผลิตเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ในชื่อที่โด่งดังไปทั่วโลก อย่าง “Sapporo Beer” พิพิธภัณฑ์ เบียร์ ซัปโปโร นั้น เปิดเป็นทางการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 โดยได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง มาเป็นในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร นั้น จะมีข้อมูลประวัติของเบียร์ต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่การคิดค้น ไปจนถึงขั้นตอนการผลิต และข้อมูลอื่นๆ สำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องราวของเบียร์ญี่ปุ่น

ภูเขาโมอิวะ (Mount Moiwa)

ภูเขาโมอิวะ เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่กลางใจเมืองซัปโปโร มีประวัติอันยาวนาน ในอดีตนั้นเป็นที่อยู่ของชนเผ่าไอนุ ที่อาศัยอยู่ในแถบฮอกไกโด ข้อสังเกตคือชื่อสถานที่หรือเมืองในแถบนี้จะอ้างอิงมาจากภาษาไอนุ อย่าง ซัปโปโร ที่ในภาษาของชนเผ่านี้หมายถึง “สายน้ำที่ไหลลงสู่ที่ลุ่ม” ซึ่งภูเขาโมอิวะ ถือได้ว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่สถิตย์ของพระเจ้า ที่คอยเฝ้ามองพวกเขาอยู่บนภูเขาลูกนี้
ภูเขาโมอิวะมีความสูงอยู่ที่ 531 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นสถานที่ต่างๆ ของเมืองซัปโปโรได้รอบทิศทาง และเคยได้รับการจัดอันดับว่าเป็น 1 ใน 3 ของจุดชมวิวยอดนิยมของประเทศญี่ปุ่นในปี 2015 ยืนยันได้ถึงทัศนียภาพด้านบนที่คุ้มค่ากับการเดินทางแน่นอน เพราะสามารถมองเห็นวิวของเมืองซัปโปโร ได้แบบ 360 องศา โดยช่วงเวลาที่ถือว่าสวยที่สุดก็คือหลังพระอาทิตย์ตกดินที่จะได้เห็นแสงไฟระยิบระยับของเมือง เป็นภาพที่ใครเห็นก็ต้องชมว่าสวยงามและน่าประทับใจ

สวนสาธารณะนากาจิมะ (Nakajima Park)

สวน นากาจิมะตั้งอยู่กลางค่อนไปทางทิศใต้ของเมืองซัปโปโร ที่นี่ถือว่าเป็นสวนสาธารณะวิวดีบรรยากาศอย่างเยี่ยมและยังเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเมืองซัปโปโร อีกทั้งยังมีแม่น้ำคาโมะที่ไหลมาจากแม่น้ำโทโยฮิระกลางสวนมีสระน้ำขนาดใหญ่ ต่อมามีการสร้าง หอแสดงคอนเสิร์ตซัปโปโร (Sapporo Concert Hall) และรอบๆสวนก็มีการสร้างคอนโดมิเนียมมากมาย 
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปีสวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนมากที่สุด เนื่องจากสวนนากาจิมะในฤดูใบไม้ผลิจะเป็นช่วงที่งดงามที่สุด เพราะที่นี่มีทุ่งดอกซากูระขนาดใหญ่ซึ่งจะพร้อมกันออกดอกสีชมพูอมขาวเต็มสวน เป็นช่วงที่งดงามในการชมสวนดอกไม้นี้รวมถึงการเก็บภาพสวย ๆ เป็นที่ระลึก โดยที่นี่มีต้นไม้มากขึ้นประมาณ 5000 ต้น ได้แก่ ต้นสนสีแดงของญี่ปุ่น ต้นยูจิโกะโกะ ต้นซากูระ  ต้นเอล์มญี่ปุ่นและต้นวิสทีเรีย โดยเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิน้ำในลำคลองซึ่งเคยจับตัวจนเป็นน้ำแข็งก็จะละลายเผยให้เห็นสายน้ำไส ๆ อีกครั้ง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือชมทิวทัศน์ในบริเวณนี้ไปรอบๆ ในราคาไม่แพงมากนัก

ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ สวนโฮโรมิโตเกะ (Horomitoge Lavender Garden)

เป็นสวนชื่อดังที่อยู่ชานเมืองซัปโปโร ที่มีชื่อเสียงด้านจุดชมวิวเมือง มีการปลูกต้นลาเวนเดอร์มากกว่า 5 พันดอกกลายเป็นทุ่งสีม่วงที่อยู่ใกล้ตัวเมืองซัปโปโร ดอกลาเวนเดอร์จะบานตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนกรกฎาคม อีกทั้งยังสามารถซื้อดอกลาเวนเดอร์และของฝากอื่นๆ อีกมากมายเช่นโปสการ์ด หรือน้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ สวนโฮโรมิโตกะยังเป็นที่นิยมในยามค่ำคืนอีกด้วย เนื่องจากสามารถมองเห็นแสงไฟของเมืองได้จากทุ่งลาเวนเดอร์

จำนวนผู้เข้าชม 44 ครั้ง