เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์ :

09.00 - 18.00 น.

Hotline

082-585-6868

เราช่วยคุณได้

@mahanakhontour

Travel License : 11/12716

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

ท่องเที่ยวสุดชิคที่จอร์เจีย

ท่องเที่ยวสุดชิคที่จอร์เจีย

25

Nov

จอร์เจีย

ท่องเที่ยวสุดชิคที่จอร์เจีย

จอร์เจีย ดินแดนสุดขอบทวีปเอเชีย ที่มีบรรยากาศแบบยุโรปผสมกับโซเวียตอย่างลงตัวเป๊ะ เต็มไปด้วยที่เที่ยวธรรมชาติทั้งป่า แม่น้ำ ภูเขา ที่สำคัญคือคนไทยยังไปฟรี ! เพราะไม่ต้องขอวีซ่า อยู่ได้ถึง 365 วัน

เมืองทบิลิซี (Tbilisi)

เป็นเมืองหลวงที่สำคัญของจอร์เจียซึ่งมีความหมายว่า อบอุ่น เนื่องจากเป็นการตั้งชื่อตามสภาพแวดล้อมของเมืองทบิลิซีที่มีบ่อน้ำพุร้อนเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่บ่อน้ำพุร้อนที่เป็นไฮไลท์สำคัญเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีย่านเมืองเก่าในทบิลิซีที่มีความสวยงามอย่างมาก หรือแม้แต่สถาปัตยกรรมต่างๆ อย่างพิพิธภัณฑ์ วิคาร หรืออาคารบ้านเรือนต่างๆ  รวมไปถึงถนนคนเดิน ตลาดขายของเก่า และจัตุรัสเมืองซึ่งเป็นแหล่งรวมสีสันและความมีชีวิตชีวาของเมืองหลวงแห่งนี้

เมืองโบราณอุพลิสชิเค (Uplistsikhe)

ความมหัศจรรย์ของเมืองโบราณในถ้ำหินที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งเชื่อว่าเมืองในถ้ำหินแห่งนี้ น่าจะสร้างมาตั้งแต่ 3,000 ปีมาแล้ว ซึ่งเป็นการสร้างโดยเจาะภูเขาหินเข้าไปกลายเป็นถ้ำ มีการอยู่อาศัยเป็นเมืองใหญ่ที่มีทั้ง ที่พักที่มีห้องต่างๆ เป็นสัดส่วน ร้านค้า โบสถ์ ฯลฯ ถือเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่เก่าแก่ที่สุดในจอร์เจีย นอกจากความอัศจรรย์ของเมืองโบราณแห่งนี้แล้ว ยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ทั้งวิวของเทือกเขาและแม่น้ำ Mtkvari

จูทา (Juta)

หมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนเหนือของ เมืองทบิลิซี (Tbilisi) ประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่บนความสูงประมาณ 2,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลในอ้อมกอดของ เทือกเขาคอเคซัส (Caucasus) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติ Kazbegi National Park ใกล้กับบริเวณชายแดนระหว่างจอร์เจีย และรัสเซีย เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของยุโรปคู่กับ Ushguli หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่งในเทือกเขาคอเคซัสที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และแม้จูทาจะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่มาก แต่ด้วยทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของขุนเขา สายน้ำ ทุ่งหญ้า และทุ่งดอกไม้ จึงทำให้หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดโลก

มิชเคห์ตา (Mtskheta)

เมืองหลวงเก่าของจอร์เจีย ซึ่งรุ่งเรืองในช่วงศตวรรษที่ 5 และอยู่ไม่ห่างกันนัก เพราะห่างจากทบิลิซีเพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น เสน่ห์ของมิชเคห์ตา คือความที่เป็นเมืองเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยภูมิประเทศที่สวยงามมาก โดยเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำสองสีที่มาจากสองสายคือ แม่น้ำอักราวิ (Aragvi) และแม่น้ำมิกวาริ (Mtkvari) อาคารบ้านเรือนก็ยังได้กลิ่นอายในยุคกลาง ที่นี่เป็นเมืองธรรมชาติ อากาศดี และพื้นที่เหมาะแก่การปลูกองุ่นสำหรับทำไวน์

โรงละครเรโซ กาเบรียลเซ (Rezo Gabriadze Theatre)

โรงละครเรโซกาเบรียลเซ (Rezo Gabriadze Theatre) หนึ่งในอาคารที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์ท่ามกลางตึกอาคารเก่าแก่ในย่านเมืองเก่าของทบิลิซี สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1981 โดยมีไฮไลท์เป็น หอนาฬิกา สีสันฉูดฉาดที่มีรูปทรงบิดเบี้ยวดูแปลกตา ซึ่งในทุกๆ หนึ่งชั่วโมงยามที่เข็มนาฬิกาเดินถึงเลข XII (12) จะมีรูปปั้นนางฟ้าโผล่ออกมาทักทายผู้คน

อนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย (The Chronicle of Georgia)

เป็นอนุสรณ์ขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่บนเนินเขามองลงมาสู่ทะเลสาบ Tbilisi Sea ซึ่งมีลักษณะเป็นแท่งหินสีดำขนาดใหญ่ แกะสลักเป็นรูปต่างๆที่สื่อถึงเรื่องราวในอดีตของประเทศจอร์เจีย โดยเล่าถึงประวัติศาสตร์ 3,000 ปี ของอำนาจการปกครองของจอร์เจีย ด้วยการสลักเกี่ยวกับกษัตริย์ วีรบุรุษ และพระเยซูคริสต์ ไว้บนเสาเหล็กขนาดมหึมา ซึ่งความอลังการณ์ และบรรยากาศความสวยงามของอนุสรณ์แห่งนี้ทำให้ได้ชื่อว่าเป็น Stonehenge of Georgia

สวนพฤกษศาสตร์แห่งจอร์เจีย (National Botanical Garden of Georgia)

สวนพฤกษศาสตร์ทบิลิซิ หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่าสวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติทบิลิซิ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่เก่าแก่และร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งในคอเคซัส ตั้งอยู่ในเมืองทบิลิซี ใต้ป้อมปราการ Narikala ลึกเข้าไปในช่องเขาที่ตัดผ่านใจกลางเมือง สวนที่มีพื้นที่กว่า 120 เฮกตาร์ ให้ทัศนียภาพอันงดงามของเมืองและภูมิทัศน์โดยรอบ

เทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountains)

หนึ่งในสถานที่เที่ยวจอร์เจียที่มีชื่อเสียง ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เทือกเขาคอเคซัสใหญ่ และเทือกเขาคอเคซัสน้อย ตัดพาดผ่านระหว่าง 4 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย จอร์เจีย อาร์เมเนีย และอาร์เซอร์ไบจาน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเพื่อชมความงดงามของเทือกเขาที่ตัดพรมแดนระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเชียได้อย่างกว้างไกลสุดสายตา

ทะเลสาบเซวาน (Lake Sevan)

ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ถูกล้อมด้วยแม่น้ำหลายสาย ไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำฮราซดาน และแม่น้ำมาสริค ทำให้บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยสถานที่พักผ่อนที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเพื่อชมความงดงามของธรรมชาติ พร้อมทั้งดื่มด่ำไปกับบรรยากาศรอบ ๆ ได้อย่างเต็มที่

กูเดาริ (Gudauri Ski Resort)

กูเดาริเป็นเมืองสกีรีสอร์ทบนภูเขาที่ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,000 เมตร ช่วงฤดูหนาวที่นี่จะเป็นจุดหมายปลายทางหลักๆ ของทั้งชาวจอร์เจียและนักท่องเที่ยว เพราะกูเดาริจะกลายสภาพเป็นภูเขาหิมะขนาดใหญ่ไว้เล่นสกีและกีฬาฤดูหนาวทุกรูปแบบ เช่น ฮอกกี้ เลื่อนหิมะ และสโนว์บอร์ด เทือกเขาคอเคซัสที่ปกคลุมไปด้วยหิมะของที่นี่ดูยิ่งใหญ่และสวยงามไม่แพ้กับเทือกเขาแอลป์ทางฝั่งยุโรปเลยทีเดียว

อารามบนเสาหินคัตส์คี (Katskhi Pillar Monastery)

แท่งหินปูนสูง 40 เมตร ซึ่งมีส่วนยอดเป็นที่ตั้งของโบสถ์เล็กๆ ที่แยกตัวออกจากโลก และมีนักบวชอาศัยอยู่เพียงรูปเดียว ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าโบสถ์ที่อยู่บนนั้นสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อไร แต่จากผลการศึกษาของทีมนักวิจัยในช่วงปี 1999-2009 พบว่าโบสถ์ดังกล่าวน่าจะสร้างเสร็จในช่วงศตวรรษที่ 9-10 และถูกใช้งานทางศาสนาเรื่อยมากระทั่งถูกทิ้งร้างไปหลังศตวรรษที่ 13

ป้อมปราการนาริกาลา (Narikala Fortress)

ป้อมปราการนาริกาลา ชื่อที่เป็นภาษาเปอร์เซีย มาจากคำว่า ป้อมที่ไม่สามารถแตกได้ ด้วยความที่มีจุดเด่นสมชื่อ จึงที่หมายตาของหลายชาติ ซึ่งเปนเหตุให้มีการเปลี่ยนเจ้าของการปกครองอยู่หลายรอบ โดยมีทั้งอาหรับ มองโกล เปอร์เซีย เติร์ก และรัสเซีย ซึ่งปัจจุบันถูกใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว สามารถมองเห็นความงาม  โบสถ์นักบุญนิโคลาส (St. Nicholas Church) และสามารถมองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำมิตควารี ได้จากที่ป้อมนี้

โรงอาบน้ำแร่กำมะถัน (Abanotubani Sulfur Bath)

โรงอาบน้ำแร่กำมะถัน (Sulfur Bath) ในเมืองทบิลิซีเมืองใหญ่ของประเทศจอร์เจียที่มีบ่อน้ำพุร้อนจำนวนมาก จึงทำให้มีโรงอาบน้ำพุร้อนเก่าแก่หลายร้อยปีที่ยังเปิดให้บริการ โดยชาวจอร์เจียจะนิยมเรียกโรงอาบน้ำนี้ว่า อะบาโนตูบานี (Abanotubani) ซึ่งเป็นโรงอาบน้ำที่มีลักษณะคล้ายกับบ่อออนเซ็นของชาวญี่ปุ่น แต่มีการผสมผสานรูปแบบการอาบน้ำของชาวตุรกีเข้ามาด้วย โดยจุดเด่นของโรงอาบน้ำแห่งนี้คือโดมที่มีลักษณะติดกันทำให้เกิดเป็นความงดงามสไตล์จอร์เจียสุดเก๋นั่นเอง

พระราชวังกษัตริย์จอร์เจีย อีเรเคิลที่ 2 (Palace of King of Georgia Erekle II)

เป็นที่ ๆ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของกษัตริย์ในสมัยนั้น มีป้อมปราการปกคลุมแน่หนา ที่แห่งนี้ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีมาตลอด และท้ายสุดได้ถูกทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ มีส่วนจัดแสดงให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของกษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็น บรรยากาศในห้องบรรทม พระราชฐานส่วนใน บัลลังก์ และแม้กระทั่งมีที่เก็บรักษาศาสตราวุธ

มหาวิหารซาเมบา (Sameba Cathedral)

มหาวิหารซาเมบา หรือ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งตรีเอกานุภาพ ซมินด้า ซาเมบา เป็นสัญลักษณ์แห่งจอร์เจียยุคใหม่ ตั้งอบู่บนเนินเขา ริมฝั่งแม่น้ำคูร่า Kura River สร้างขึ้นในปี 2004 ด้วยสถาปัตยกรรมร่วมสมัยให้เป็นวิหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจอร์เจีย มีความสูงถึง 50 เมตร มีพื้นที่ถึง 5,000 ตารางเมตร และจุผู้แสวงบุญได้ถึง 15,000 คน 

จำนวนผู้เข้าชม 48 ครั้ง