21
Nov
ฝรั่งเศส
10 ที่เที่ยวฝรั่งเศส ต้องไปซักครั้งในชีวิต
ฝรั่งเศส ประเทศที่มีประวัติความเป็นมายาวนานแห่งหนึ่งในโลก
และผ่านช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์มามากมาย ที่เที่ยวดังๆ
หลายแห่งของที่นี่เลยมีหลากหลายรูปแบบมาก ไล่มาตั้งแต่โบราณสถาน ปราสาท วัง จนถึงที่เที่ยวยุคสมัยใหม่ที่ดูโมเดิร์นขึ้นมา
ใครที่ชื่นชอบงานสถาปัตยกรรมสวยๆ เดินชมเมืองงามๆ
ในบรรยากาศที่รับรองว่าไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
รับรองทุกคนจะอยากไปเที่ยวฝรั่งเศสแน่ๆ
หอไอเฟล (Eiffel Tower)
หอไอเฟล (ฝรั่งเศส: Tour Eiffel, ตูร์แอแฟล) เป็นหอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนช็องเดอมาร์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส เป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย ชั้นแรกของหอไอเฟลมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมให้ทำหลากหลาย เช่น โรงภาพยนตร์, นิทรรศการหมุนเวียนเกี่ยวกับวัฒนธรรม, หอจดหมายเหตุดิจิทัล และการจัดแสดงวัตถุจำลองต่าง ๆ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เชิงลึกของหอไอเฟลอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ที่ชั้น 1 นี้ยังมีร้านอาหาร Madame Brasserie ซึ่งเสิร์ฟอาหารจากวัตถุดิบในท้องถิ่นของกรุงปารีส โดยมีพื้นกระจกที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามด้านล่างได้อย่างชัดเจนในมุมมองที่ไม่ซ้ำใคร
โบสถ์แอ็บบีเดอซีนอคค์ (Abbaye de Senanque)
โบสถ์แอ็บบีเดอซีนอคค์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจ โบสถ์ที่โด่งดังด้วยทัศนียภาพของตัวโบถส์หินเก่าแก่สีเทาตัดกับทุ่งดอกลาเวนเดอร์สีม่วงขนาดใหญ่ด้านหน้าตัวโบสถ์
ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโบสถ์แห่งนี้ไปแล้ว
พระราชวังแวร์ซายส์ (Versailles Palace)
พระราชวังแวร์ซาย
สัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของราชวงศ์ฝรั่งเศส
เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ French Baroque สุดอลังการ
อาณาเขตของพระราชวังมีพื้นที่รวมกว่า 5,000 ไร่
แบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 โซน ได้แก่ The Palace, The
Gardens, The Estate of Trianon และ The Park ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส
มหาวิหารมงแซ็ง-มีแชล (Mont Saint-Michel)
มหาวิหารมงแซ็ง-มีแชล เป็นวิหารกลางน้ำ ศูนย์รวมแห่งศรัทธาของคริสต์ศาสนาที่มีอายุยาวนานกว่า 1,000
ปี ตามบันทึกในมหาวิหารได้กล่าวไว้ว่า แรกเริ่มเดิมทีที่นี่เป็นเพียงโบสถ์เล็กๆ
สร้างขึ้นโดยบิชอปอูเบิร์ต (Aubert of Avranches) เพราะได้รับนิมิตจากอัครเทวดาเซนต์ไมเคิล
(Saint Michael) อัครเทวดาสำคัญของศาสนาคริสต์ถึง 3 ครั้ง จนในที่สุดโบสถ์แห่งนี้ก็ได้สร้างขึ้น เมื่อปี
ค.ศ. 709 ก่อนจะมีการต่อเติมขึ้นเรื่อยๆ
ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ไปจนถึงศตวรรษที่ 15 จึงทำให้ มหาวิหารมงแซ็ง-มีแชล แห่งนี้มีการผสมผสานศิลปะของแต่ละยุคสมัย ทั้งสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ (Romanesque)
และ โกธิค (Gothic)
กอลมาร์ (Colmar)
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นและเป็นเสน่ห์ของที่นี่
ก็คือลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยากาศของเมืองโบราณ บ้านเรือนสไตล์ Half-timbering บ้านเรือนในยุคกลางศตวรรษของฝรั่งเศส
ที่ก่อสร้างด้วยปูนและโครงสร้างด้านนอกเป็นไม้
ประดับไฟที่ให้แสงสว่างไปทั่วทั้งเมืองไล่ไปตั้งแต่สะพานและต้นไม้ ยาวไปจนถึงกระจกสีที่ใช้ตกแต่งภายในโบสถ์ประจำเมือง
จะพบในยุโรปตะวันตกและสแกนดิเนเวียบางส่วน โดยเฉพาะฝรั่งเศสและเยอรมนี อีกทั้งยังเป็นต้นแบบหมู่บ้านของดิสนีย์ในเรื่อง
Beauty and the Beast
ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe)
หนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในกรุงปารีสที่ทุกคนต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งคือ
ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc
de Triomphe de l'Étoile) ซึ่งถือเป็นประตูชัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกที่มีความงดงาม
ทั้งยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศสที่มีอายุกว่า 200
ปี หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ควรพลาดถ้าไปได้เที่ยวกรุงปารีส
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum)
พิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุดใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้เมื่อปี
ค.ศ. 1793
มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์กาเปเซียง
ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวงตรงมาที่นี่เลย
แรกเริ่มลูฟวร์เป็นพระราชวังสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าฟีลิปที่ 2 ในปี ค.ศ. 1190 พอมีการสร้างวังใหม่ในสไตล์เรอเนซองส์แทนป้อมเก่าที่ถูกรื้อทิ้งในสมัยระเจ้าฟร็องซัวที่
1 ราชวงศ์ฝรั่งเศสจึงมาพำนักในวังนครปารีสเรื่อยมา
กษัตริย์แต่ละพระองค์ต่างก็ต่อเติมตกแต่งในห้พระราชวังมีความโอ่งอ่าง
ยิ่งใหญ่สวยงามอวดบารมีจนกระทั่งการปฏิวัติฝรั่งเศสในสมัยพระเจ้าหลุยส์ 16 หลังจากนั้นพระราชวังลูฟวร์ได้ปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์
สุสานใต้ดิน คาตาคอมส์ ออฟ ปารีส (Paris Catacombs)
สุสานที่อัดแน่นไปด้วยกระดูกและหัวกะโหลกหลายล้านชิ้น จากร่างไร้วิญญาณกว่าหกล้านชีวิต ที่ถูกเรียงสูงพะเนินเต็มผนังทางเดินทั้งสองข้าง ซึ่งแม้ว่าจะมีบรรยากาศชวนหลอน แต่ก็เป็นที่เที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่ขาดสายในสมัยก่อนนั้นที่แห่งนี้เคยเป็นเหมืองแร่อยู่แถวๆ นอกเมือง และเป็นที่ๆ ส่งวัสดุก่อสร้างให้ในเมือง แต่ภายหลังเมื่อเมืองมีขนาดใหญ่ขึ้นละจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น สถานที่แห่งนี้จึงกลายมาเป็นที่สำหรับฝังศพในเวลาต่อมา
จิแวร์นี (Giverny)
เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและน่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปะและธรรมชาติ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของ โคล้ด โมเนต์ (Claude Monet) จิตรกรชื่อดังชาวฝรั่งเศส ที่อยู่ในแคว้นบอร์โดซ์ (Bordeaux) ของฝรั่งเศส ห่างจากปารีสไปประมาณ 80 กิโลเมตร ถ้าเอ่ยถึงเมืองนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนจะรู้ว่าเป็นที่ตั้งของบ้านโคลด โมเนต์ (Claude Monet) จิตรกรยุคอิมเพรสชันนิสม์ ช่วงศตวรรษที่ 19 บ้านหลังนี้คือที่มาของแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะของโมเนต์ พวกภาพแลนด์สเคปสีพาสเทลดูแล้วอบอุ่นหัวใจทั้งหลาย ต้องบอกว่าของจริงก็มาจากที่บ้านหลังนี้แหละ ไม่ว่าจะเป็นกอบัวที่สระน้ำบนภาพ Water lilies หรือพวกสวนญี่ปุ่นที่มีความเป็นเซนหน่อยๆ ก็ปรากฏอยู่ในหลายๆ ภาพของโมเนต์
โรงละครปาเลส์การ์นิเย่ (Palais Garnier)
โรงอุปรากรปาแลการ์นีเย ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ในประเทศฝรั่งเศส โดยเป็นสถานที่เพื่อแสดงศิลปะการแสดงบนเวที โดยมีลักษณะเป็นแบบละครที่ดำเนินเรื่องโดยใช้ดนตรีเป็นหลักหรือทั้งหมดสร้างขึ้นปี ค.ศ.1862 สมัยจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 โดยสถาปนิก ชื่อ Charles Garnier ตามศิลปะแบบบาโรก ภายในโรงอุปรากรปาแลการ์นีเยมีเนื้อที่ประมาณ 11,000 ตารางเมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 2,200 คน และมีห้องที่สามารถรับนักแสดงได้ประมาณ 450 คน