เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์ :

09.00 - 18.00 น.

Hotline

082-585-6868

เราช่วยคุณได้

@mahanakhontour

Travel License : 11/12716

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

สถานที่ท่องเที่ยวในกรีซ สำรวจเสน่ห์แดนเทพนิยาย

สถานที่ท่องเที่ยวในกรีซ สำรวจเสน่ห์แดนเทพนิยาย

20

Nov

กรีซ

สถานที่ท่องเที่ยวในกรีซ สำรวจเสน่ห์แดนเทพนิยาย

ประเทศกรีซ ถือว่าเป็นอีกประเทศที่ค่อนข้างน่าอยู่และน่าไปเที่ยวมากเลยทีเดียว หลายคนบอกว่าหากพูดถึงกรีก ก็จะนึกถึงเหตุการณ์ในเทพนิยาย และการแต่งกายที่แปลกตาของคนในยุคกรีกโบราณ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบในเรื่องของอารยะธรรมโบราณแล้ว การเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศกรีซ ถือเป็นประเทศที่มีเสน่ห์และน่าค้นหามากจริงๆ

วิหารพาร์เธนอน (Parthenon)

วิหารพาร์เธนอน แปลว่า ห้องแห่งเทพีพหรมจารี (Hall of the virgin goddess) ซึ่งถวายแด่เทพีอธีนานั่นเอง เป็นวิหารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าในรูปแบบสถาปัตยกรรมคลาสสิก สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ยาว 70 เมตร และกว้าง 30 เมตร ประกอบไปด้วยเสา 8 ต้น และด้านยาวอีก 17 ต้น แต่ละต้นตกแต่งด้วยศิลปะแบบดอริก (Doric) คือมีความเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความแข็งแรงคงทน โดดเด่นด้วยประติมากรรมรูปนูนที่ประดับตกแต่งตรงจั่วหน้าหลังคาวิหารทรงสามเหลี่ยม แต่ในปัจจุบันหลังคากลับถูกทำลายและสูญหายไปเกือบทั้งหมด เนื่องด้วยผ่านมาหลายยุคหลายสมัย ผ่านสงครามทางการเมืองและศาสนามามากมาย แต่ถึงอย่างนั้น วิหารพาร์เธนอน แห่งนี้ก็ถือเป็นวิหารกรีกโบราณที่มีสภาพสมบูรณ์และสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศกรีซเลยทีเดียว

ซานโตรินี (Santorini)

ซานโตรินี เป็นเมืองบนเกาะทางตอนใต้ของทะเลอีเจียน ประเทศกรีซ ทั้งเกาะมีพื้นที่ประมาณ 91 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 15,000 คน แต่มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงถึงประมาณ 1.5 ล้านคนต่อปี โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน แต่เดิมเกาะนี้มีชื่อว่า ธีรา (Thira) เชื่อกันว่าชาวฟินีเชียนเป็นพวกแรกที่อพยพเข้ามาอาศัยบนเกาะนี้ ราวๆ 3,600 ปีก่อนคริสตกาล จากนั้นก็ถูกปกครองโดยชาวลาโคเนียน กระทั่งถึง 3,000 ปีก่อนคริสตกาล กษัตริย์ไมนอส ผู้ปกครองแห่งเกาะครีตได้แผ่ขยายอิทธิพลด้านศิลปะ และวัฒนธรรมมิโนอันมายังธีรา เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เนื่องจากมีทัศนียภาพที่งดงาม และมีบรรยากาศยามเย็นแสงสีส้มเข้มของพระอาทิตย์ที่ใกล้จะหายลับไป กับขอบทะเลสีฟ้าเข้ม มีฉากหน้าเป็นอาคารบ้านเรือนสีขาวฟ้า ที่เรียงรายอยู่บนเขาริมทะเล

เกาะซาคินทอส (Zakynthos)

เกาะซาคินทอส เป็นหนึ่งใน 7 หมู่เกาะไอโอเนียน ในทะเลไอโอเนียน นอกฝั่งตะวันตกของประเทศกรีซ ตอนกลางของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (คั่นกลางระหว่างอิตาลีและกรีซ) เป็นเกาะใหญ่เป็นอันดับ 3 ของหมู่เกาะแห่งนี้ มีพื้นที่ 410 ตร.กม. (158 ตร.ไมล์) จุดที่ลึกที่สุดของทะเลไอโอเนียน วัดได้ถึง 2,290 เมตร ทั้ง 7 เกาะนี้เคยเป็นอาณานิคมของกรีกโบราณ จนต่อมาเมื่อยุคอิตาลีรุ่งโรจน์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันและจักรวรรดิไบแซนไทน์ เคยถูกยึกครองโดยหลายประเทศ จนท้ายที่สุดได้รับอิสระและรวมเข้ากับกรีซในปี ค.ศ. 1864

เกาะครีต (Crete Island)

เกาะครีต (Crete Island) หรือ ครีติ (Kriti) เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของกรีซ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลอีเจียน มีชื่อเสียงในด้านสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมากมาย ทัวร์กรีซ ซึ่งมีตั้งแต่ที่ราบอันอุดมสมบูรณ์และท้องทะเลที่ใสดุจคริสตัล ไปจนถึงภูเขาสูงชันและดอกไม้ป่าหลากสีสัน

เขาเมเทออรา (Meteora Rocks)

เมทิโอร่า สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดหมายปลายที่อยากจะเชื้อเชิญ ตั้งอยู่ที่เมืองคาลัมบาก้า(Kalambaka) ตอนกลางของประเทศกรีซ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเแท่งหินแหลมๆสลับสูงต่ำจำนวนมาก แท่งหินที่เห็นเป็นผลจากการถูกกัดกร่อน และผุพังไปตามธรรมชาติทั้งจากน้ำ ภูมิอากาศ แรงโน้มถ่วง และแผ่นดินไหว ที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของอารามนักบวชคริสต์นิกายออร์ทอดอกซ์ (Orthodox Church) ว่ากันว่าการสร้างอารามไว้บนยอดเขาเพราะมีความเชื่อว่าจะได้ใกล้ชิดกับสวรรค์ และเป็นการง่ายต่อการป้องกันศาสนาอื่นมารุกราน อารามถูกสร้างขึ้นโดยนักบวชชาวคริสต์ โดยการใช้เชือก บันไดพับ และเครื่องทุ่นแรงอื่น ๆ ในการขนย้ายวัสดุก่อสร้างขึ้นไป

เมืองโบราณเดลฟี่ (Archaeological Site of Delphi)

เมืองโบราณเดลฟี่ มีโบราณสถานสำคัญอายุหลายพันปีในยุคกรีก ตั้งอยู่ที่เมืองเดลฟี ประเทศกรีซ เหนือวิหารแห่งอะพอลโล โบราณสถานนี้มีความสำคัญคือเคยถูกใช้เป็นโรงละครโบราณ และสนามกีฬา โดยสร้างขึ้นก่อนคริสตกาลประมาณ 400 ปี และถูกปรับปรุงแต่งเติมในสมัยกษัตริย์ยูเมเนสที่สอง และพวกโรมัน ซึ่งโรงละครแห่งนี้มี 35 แถว จุคนได้กว่า 5,000 คน สามารถเห็นมุมมองได้หลากหลายเพราะเป็นลักษณะโค้ง 180 องศา ที่นั่งเป็นชั้นสโลปลงมาสร้างมาจากหินปูน ในสมัยโบราณผู้คนสามารถสรรหาความบันเทิงได้ที่นี่ทั้งโรงละคร ที่อ่านบทกวี การแสดงดนตรีหรือเทศกาลต่างๆท่ามกลางวิวด้านหลังที่สวยงาม ถ้าไปท่องเที่ยวที่นี่แนะนำว่าให้ไปทัวร์ เพราะเดลฟีเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมโบราณสถานเก่าแก่ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเอเธนส์ประมาณ 135 กิโลเมตร

ถ้ำสีน้ำเงิน (Blue Grotto)

ถ้ำสีน้ำเงิน แห่งเกาะคาสเตโลริโซ (Kastellorizo) ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของกรีซ เป็นถ้ำหินปูนสีขาวที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเล จนกลายเป็นโพรงถ้ำสวยงาม การเข้าชมจะต้องนั่งเรือลำเล็กเข้าไปเท่านั้น ช่วงเวลาที่ถ้ำจะสวยงามสุดๆ อยู่ในช่วงเช้า เมื่อดวงอาทิตย์อยู่ใกล้ผิวทะเลและเกิดการหักเหของแสงสะท้อนกับน้ำ ทำให้ภายในถ้ำเป็นประกายสีฟ้าระยิบระยับราวกับคริสตัล เหมือนได้หลุดไปอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว

เมืองเทสซาโลนิกิ (Thessaloniki)

เมืองเทสซาโลนิกิ อีกเมืองที่น่ามาเยือนของประเทศกรีซ อีกทั้งยังเป็นเมืองท่าและเมืองที่ใหญ่เป็นลำดับ 2 ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการค้า รวมถึงการเป็นศูนย์กลางทางด้านการขนส่งของยุโรปตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย สัมผัสกลิ่นอายขอเมืองที่ ตลาดกลาง สถานที่ที่จะได้ตื่นตาไปกับ ร้านอาหารแบบดั้งเดิมที่มีหลายร้อย ร้านขายเนื้อ ปลา ผัก ผลไม้ หรือจะไปเดิน จัตุรัสAristotelous จัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเมือง ซึ่งที่นี่จะมีร้านกาแฟและร้านอาหารไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวอีกมากมาย

สนามกีฬาพานาเธเนค (Panathenaic Stadium)

เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเมือง และเป็นสัญลักษณ์แห่งกรุงเอเธนส์สมัยใหม่ หลังจากการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในที่สุด ที่นี่ก็กลายเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ครั้งแรกในปี 1896 และยังคงเป็นสนามกีฬาแห่งเดียวในโลกที่สร้างจากหินอ่อนทั้งหมด เริ่มขึ้นในปลายศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสต์ศักราช เมื่อ Lycurgus นักปราศรัยผู้ยิ่งใหญ่พยายามที่จะสร้างเอเธนส์ให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน Panathenaic Games ซึ่งเป็นหนึ่งในงานเฉลิมฉลองที่สำคัญของเมือง เดิมทีสนามกีฬามีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตามแบบฉบับของสนามกีฬากรีกโบราณ (เช่น ในโอลิมเปียโบราณและเอพิดอรัสโบราณ) และจะใช้เป็นครั้งแรกใน 330 ปีก่อนคริสตกาล

โรดส์ (Rhodes)

เกาะใหญ่อันดับ 9 ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทัวร์กรีซ และเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะโดเดกานีซของกรีซ ที่ผสมผสานกลิ่นอายความเป็นสากลในยุคปัจจุบัน ทัวร์กรีซ ที่เข้ากับสถาปัตยกรรมยุคกลางด้วยวิธีที่ไม่เหมือนใคร! ทั้งภูมิทัศน์ธรรมชาติ อาคารสูงตระหง่าน เมืองโบราณ และหมู่บ้านที่งดงามราวภาพวาดมาบรรจบกับชายหาดที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทัวร์กรีซ ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านอาหารชั้นนำ และคลับเต้นรำ ทำให้เกาะโรดส์เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ที่แสวงหาเรื่องราวอดีตความรุ่งเรืองของกรีกโบราณ ทัวร์กรีซ ตั้งท่ามกลางวิถีใหม่ของโลกยุคปัจจุบัน

พิพิธภัณฑ์อะโครโพลิส (The Acropolis Museum)

ตั้งอยู่ในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และยังตั้งอยู่ในพื้นที่ประวัติศาสตร์ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของวิหารพาร์เธนอน การก่อสร้างเสร็จในปี 2007 ซึ่งใช้เวลาทั้งสิ้นมากกว่า 30 ปีตั้งแต่มีการคิดจะสร้างพิพิธภัณฑ์นี้ขึ้นมามีขนาดที่ว่ามีพื้นที่มากกว่าพิพิธภัณฑ์เก่าที่ตั้งอยู่บนยอดเขาของอะโครโพลิสถึง 10 เท่า ภายในจัดแสดงงานศิลปะ วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในอะโครโพลิสในช่วงก่อนประวัติศาสตร์และยาวเรื่อยมาจนถึงช่วงเริ่มต้นยุคกลาง

วิหารเอเรคเธียม(The Erechtheion)

วิหารเอเรคเธียมที่งดงามและโดดเด่นด้วยแนวเสารูปหญิงสาว ยืนเรียงรายค้ำยัน รับน้ำหนักอาคารไว้ศีรษะจรดปลายเท้าของพวกเธอ เสารูปหญิงสาว หรือ Caryatid เป็นเสาหินแกะสลักรูปหญิงสาวที่มีความงดงามและมีหน้าที่ใช้สอยในการค่ำยันรับน้ำหนักอาคาร บางตำราเรียกเสาหินเหล่านี้ว่า เสาหญิงพรหมจรรย์ เสารูปหญิงสาวที่วิหารอีเรคธีอุมทั้ง 6 นางมีความแตกต่างกันทั้งท่วงท่าหน้าตา ทรงผม และเครื่องแต่งกาย เสาที่ค้ำยันวิหารอยู่ในปัจจุบันนี้เป็นของจำลอง เสาหินของจริงจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์อะโครโปลิส

วิหารโพไซดอน (Temple of Poseidon)

ตั้งอยู่บนเชิงเขาสูงที่เต็มไปด้วยหินขรุขระซึ่งมองลงมาเห็นวิวทะเล วิหารนี้สร้างขึ้นเพื่อแสดงความเคารพต่อโพเซดอน เทพเจ้าแห่งท้องทะเล ตั้งอยู่บนยอดเนินเขาหินที่มีวิวทะเลอีเจียนในอ่าว Saronic วิหารแห่งนี้เคยถูกดัดแปลงให้เป็นโบสถ์คริสตจักรนิกายกรีกออร์โธด็อกซ์ในคริสต์ศตวรรษที่ 6 และยังเคยเป็นสุเหร่าให้แก่ศาสนาอิสลามเมื่อครั้งตกเป็นเมืองขึ้นของอิสลาม วิหารแห่งนี้มีความโดดเด่นที่เสาแบบพอริกด้านหน้า 8 ต้น ส่วนด้านข้างมีถึง 18 ต้น จึงถือว่าเป็นวิหารที่ใหญ่โตและงดงามที่หลังคามุมจั่ว ที่ถือว่ามีความสมบูรณ์มากในยุค 2,500 กว่าปีก่อน

ถ้ำเมลิสซานี (Melissani Cave)

ถ้ำเมลิสซานี (Melissani Cave) คือถ้ำที่ตั้งอยู่บนเกาะเซฟาโลเนีย หรือ เกาะเคฟาลลีนีอา ประเทศกรีซ ผืนทะเลสาบแสนสวยในถ้ำแห่งนี้ได้สำรวจพบโดยนักบรรพชีวินวิทยา จีอานิส พีโตรคีลอส (Giannis Petrocheilos) ในปี พ.ศ.2494 มีการขุดพบวัตถุโบราณหลายชิ้นด้วยกัน ภายในถ้ำมีทะเลสาบเมลิสซานี (Melissani Lake) เป็นทะเลสาบน้ำกร่อยอยู่เข้าไปลึกกว่า 500 เมตรจากทะเล นักท่องเที่ยวจะล่องเรือไปตามเส้นทางเพื่อชมธรรมชาติที่สวยงามของน้ำที่ใสราวกับกระจก

จำนวนผู้เข้าชม 47 ครั้ง