5 หมู่บ้านโบราณในญี่ปุ่น สัมผัสบรรยากาศยุคเอโดะ

ทาคายามะ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคกิฟูของญี่ปุ่น มีบรรยากาศที่สงบเงียบและมีเสน่ห์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นในยุคเอโดะ ใจกลางเมืองทาคายาม่าคือย่านอนุรักษ์เก่าแก่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับ 300 ปีนามว่า “Sanmachi-Suji” ด้วยการอนุรักษ์อย่างมีแบบแผน อาคารบ้านเรือนจึงยังอยู่ในสภาพดี แทบจะสมบูรณ์แบบ Sanmachi-suji จึงได้รับสมญานามว่าที่นี่คือ Little Kyoto

ทาคายามะคือเมืองที่สวยงามและมีเสน่ห์มาก บรรยากาศที่นี่สบายๆ และอากาศก็ดี มีลมเย็นๆ พัดมาจากแม่น้ำมิยากาวะ (Miyagawa River) พร้อมเสียงคลื่นน้ำที่ไหลรินขณะเดินชมวิว สถาปัตยกรรมไม้สวยๆ ยังคงมีให้เห็นตลอดสองข้างทาง และร้านค้าเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาหลายรุ่นก็ยังเปิดให้บริการอย่างอบอุ่น ทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีต

ตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ เป็นหนึ่งในหมู่บ้านโบราณที่อยู่บนเส้นทาง Nakasendo ซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองเก่าของญี่ปุ่น โดยเฉพาะระหว่างเกียวโตและเอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน)Magome-juku เคยเป็นหนึ่งในสถานีพักผ่อนสำหรับนักเดินทางในสมัยเอโดะ สถานที่นี้มีความสำคัญในด้านการค้าและการเดินทาง ทำให้มีร้านค้ามากมายที่ให้บริการนักเดินทาง ในปัจจุบัน หมู่บ้านยังคงรักษาสถาปัตยกรรมโบราณและบรรยากาศดั้งเดิมเอาไว้ ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีสองข้างทางนั้นจะสวยเป็นพิเศษ บ้านไม้สีน้ำตาลถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงส้ม เหลือง หรือช่วงฤดูหนาวก็จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน มอบความสวยงามตามธรรมชาติ

Seki-juku ตั้งอยู่ในจังหวัดมิเอะ เป็นหนึ่งในสถานีโบราณที่สำคัญบนเส้นทาง Tokaido ซึ่งเชื่อมโยงระหว่างเมืองนาโกย่าและเกียวโต ซึ่งจะใช้เวลาเดินเท้านานประมาณ 13-15 วัน ทำให้บนเส้นทางนี้มีจุดแวะพักซึ่งเป็นย่านชุมชนและที่พักสำหรับนักเดินทางมากถึง 53 จุด ซึ่ง เซคิจุกุ ถือว่าเป็นจุดแวะพักลำดับที่ 47ปัจจุบันเรายังสามารถเห็นบ้านเรือนเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 200 ปี ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายสมัยเอโดะจนถึงสมัยเมจิ จำนวนมากกว่า 200 หลัง บ้านเหล่านี้ได้รับการอนุรักษ์ให้คงสภาพเดิมอย่างดี และได้รับการยกย่องให้เป็นเขตอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดั้งเดิมที่สำคัญของญี่ปุ่น นอกจากนี้ บ้านบางหลังยังเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้อีกด้วย

Kurashiki ตั้งอยู่ในจังหวัดโอคายาม่า ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่มีเสน่ห์และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในช่วงยุคเอโดะ ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและการเกษตรที่สำคัญ ตัวหมู่บ้านแห่งนี้มีตัวอาคารบ้านเรือนมีความผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างสไตล์ตะวันออกและตะวันตก เนื่องจากในสมัยก่อนที่นี่เป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้าที่เจริญรุ่งเรืองกับต่างชาติ ก่อนถูกแปรสภาพมาเป็นย่านโบราณอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม ตึกอาคารที่เราเห็นส่วนใหญ่ อดีตถูกใช้เป็นโกดังเก็บสินค้า รายละเอียดขององค์ประกอบความเป็นตะวันตกสามารถพบเห็นได้ทั่วเมือง ไม่ว่าจะเป็นเสาไฟแบบวิกตอเรีย เสาโรมันที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอฮาระ ซึ่งมีการจัดแสดงผลงานของศิลปินชื่อดังอย่างปิกัสโซ รวมถึงโกดังอิฐแดงที่ยังคงเหลืออยู่ รั้วและช่องทรงโค้งต่างๆ อารยธรรมตะวันตกเหล่านี้ได้ผสมผสานกับบรรยากาศในย่านโบราณ ทำให้เกิดเสน่ห์ที่แตกต่างจากหมู่บ้านเอโดะที่อื่นอย่างชัดเจน

Kitsuki เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชู เป็นเมืองที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก หลายคนมักนึกถึงจังหวัดโออิตะในฐานะแหล่งออนเซ็นชื่อดังของญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันเสน่ห์ของเมืองคิทซึกิ ซึ่งมีบรรยากาศที่เหมาะกับการสวมชุดกิโมโน กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ ที่นี่มีร้านให้เช่าชุดกิโมโนที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ตามความชอบ นอกจากการถ่ายรูปสวยๆ ในชุดเครื่องแต่งกายแบบญี่ปุ่นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นการสวมใส่กิโมโนหรือยูกาตะเดินเล่นในเมืองยังมาพร้อมกับบริการส่วนลดพิเศษสำหรับค่าผ่านประตูและค่าอาหารเครื่องดื่มที่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อีกด้วย