เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์ :

09.00 - 18.00 น.

Hotline

082-585-6868

เราช่วยคุณได้

@mahanakhontour

Travel License : 11/12716

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

15 สถานที่ในอังกฤษ ที่นักเดินทางต้องไม่พลาด

15 สถานที่ในอังกฤษ ที่นักเดินทางต้องไม่พลาด

20

Nov

อังกฤษ

15 สถานที่ในอังกฤษ ที่นักเดินทางต้องไม่พลาด

นึกถึงทวีปยุโรป ใครบ้างที่จะไม่นึกถึงประเทศอังกฤษ ประเทศที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์คนทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสายชอบถ่ายรูปเช็กอินกับแลนด์มาร์ก สายเดินดูงานศิลปะที่พิพิธภัณฑ์ สายดื่มด่ำกับธรรมชาติสวยงาม หรือไม่ใช่สายไหนเลยแต่ชอบท่องเที่ยวหลาย ๆ แนว ก็ถือว่าครบ จบในประเทศเดียวหากไม่รู้จะเริ่มจากที่ไหนดี ทางเราก็ได้รวบรวม สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ ที่ขึ้นชื่อเอาไว้ให้แล้ว จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างตามไปดูกันเลย!!!

หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben)

หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) หนึ่งในนาฬิกาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก สัญลักษณ์สำคัญของทั้งกรุงลอนดอนและสหราชอาณาจักร รวมถึงปรากฎอยู่ในงานศิลปะ หนังสือ ภาพยนตร์ และโทรทัศน์มากมายเป็นหอนาฬิกาประจำพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ (Palace of Westminster) ซึ่งในปัจจุบันใช้เป็นรัฐสภาอังกฤษ ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง หอนาฬิกาบิ๊กเบน เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก

เกร็ดความรู้

บิ๊กเบน ไม่ใช่ชื่อหอนาฬิกา แต่ว่ากันว่าเป็นชื่อระฆังใบใหญ่ที่สุด หนัก 15.1 ตัน ซึ่งแขวนไว้บริเวณช่องลมเหนือหน้าปัดนาฬิกา 

โรงอาบน้ำโรมัน (Roman Baths)

โรงอาบน้ำสาธารณะโรมัน เป็นประติมากรรมสมัยโรมันโบราณที่ถูกสร้างขึ้นบนเกาะอังกฤษตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 1 ถึงต้นศตวรรษที่ 5 รวมอายุถึงตอนนี้ก็มีอายุกว่า 2,000 ปี สถานที่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นศาสนาสถานประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและมีการแบ่งสัดส่วนให้เป็นที่อาบน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายและจิตใจให้เกิดความสะอาดบริสุทธิ์หรือบำบัดโรคตามความเชื่อของชาวโรมัน และวัฒนธรรมการสร้างโรงอาบน้ำโรมันก็จะพบเห็นได้ตามประเทศต่างๆ มากมาย ตามการขยายอำนาจของโรมันในยุคนั้น

พระราชวังบักกิงแฮม (Buckingham Palace)

พระราชวังบักกิงแฮม เป็นหนึ่งในพระราชวังที่ประทับของราชวงศ์อังกฤษ เป็นสถานที่ของการเฉลิมฉลองระดับชาติ เลี้ยงรับรองหรือจัดงานระดับประเทศมาตั้งแต่สมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย ในปี ค.ศ.1837 ปัจจุบันเป็นสำนักงานใหญ่ของสถาบันพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ในเขตเวสต์มินสเตอร์ในกรุงลอนดอน นับเป็นศูนย์กลางของพระราชกรณียกิจ

หอคอยลอนดอน (Tower Of London)

หอคอยลอนดอน เป็นสิ่งก่อสร้างในประวัติศาสตร์ยุคกลางที่ได้รับการดูแลรักษาดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และเป็นที่เลื่องลือในด้านประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและน่าขนลุก แม้จะเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่คุมขังและที่ประหารเป็นหลัก แต่ในช่วงหลายปีในอดีตอาคารที่น่าประทับใจแห่งนี้ยังเคยเป็นพระราชวัง โรงกษาปณ์ ที่เก็บเอกสารสำคัญ คลังแสง ค่ายทหาร และโรงเลี้ยงสัตว์ของราชวงศ์อีกด้วย

มหาวิหารเซนต์พอล (St Paul’s Cathedral)

มหาวิหารเซนต์พอล หรือ เป็นโบสถ์สำคัญทางศาสนาของสหราชอาณาจักร โดยใช้เป็นสถานที่จัดพิธีแต่งงานหรือพระราชพิธีใหญ่ๆ รวมถึงเป็นสถานที่ฝังร่างของบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์อังกฤษ ทำให้เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่มีชื่อเสียงและมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวมากที่สุดในสหราชอาณาจักร

มหาวิหารแคนเทอร์เบอรี (Canterbury Cathedral)

มหาวิหารแคนเทอร์เบอรีสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 324 และเป็นหนึ่งในอาคารคริสเตียนที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1452 นิโคลัสที่ 5 ทรงมีพระบรมราชโองการให้บูรณะใหม่ ปอร์ตาและคาร์โล มาร์เทลเป็นประธานในการออกแบบและก่อสร้างตามลำดับ และในที่สุดก็สร้างเสร็จตามรูปลักษณ์ปัจจุบัน โบสถ์ทั้งหลังประกอบด้วยอาราม อาราม อาราม และหอส่งน้ำแบบนอร์มันที่สืบทอดต่อกันมา

พิพิธภัณฑ์บริติช (British Museum)

พิพิธัณฑ์บริติช หรือที่นิยมเรียกกันว่า พิพิธภัณฑ์อังกฤษ (อังกฤษ: British Museum) ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของมนุษยที่สำคัญที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก มีการก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2296 (ค.ศ. 1753) ในเบื้องต้นวัตถุที่เก็บรวบรวมไว้ส่วนใหญ่เป็นของสะสมของเซอร์ แฮนส์ สโลน (Hans Sloane) ซึ่งเป็นแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้บริการแก่สาธารณะเป็นครั้งแรกในวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2302 (ค.ศ. 1759) ในมงตากูเฮาส์ เมืองบลูมส์เบอร์รี กรุงลอนดอน อันเป็นสถานที่ตั้งของอาคารพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน

คอทส์โวลส์ (Cotswolds)

คอทส์โวลส์ คือพื้นที่บริเวณฝั่งตะวันตกตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติยังอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับเนินเขา ทุ่งหญ้า สวนดอกไม้ แม่น้ำเล็กๆ และสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างหมู่บ้านหินสีน้ำผึ้ง ที่สร้างมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 17 และยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม

ลอนดอนอาย (The London Eye)

ลอนดอนอาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของสหราชอาณาจักร แลนด์มาร์กแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ความสูง 135 เมตรเหนือพื้นดิน ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการชมเส้นขอบฟ้าของลอนดอนอันตระการตา อีกทั้งยังเป็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป 25 ไมล์ในทุกทิศทาง  

พิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อค โฮล์มส์ (The Sherlock Holmes Museum)

พิพิธภัณฑ์เล็กๆ แห่งหนึ่งในลอนดอนซึ่งเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากไม่แพ้พิพิธภัณฑ์อื่นๆ เพราะเป็นแหล่งรวบรวมรูปภาพ รูปปั้น หรือผลงานหรือข้อมูลต่างๆ ของนักสืบผู้โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง เชอร์ล็อค โฮล์มส์ คือบ้านที่มีขนาดไม่ใหญ่มากดังนั้นภายหลังซื้อตั๋วนักท่องเที่ยวจึงอาจต้องใช้เวลารอคิวกันก่อน เพราะเนื่องด้วยความจำกัดของพื้นที่จึงต้องจำกัดจำนวนผู้เข้าชมในแต่ละรอบ  ระหว่างที่รอก็สามารถถ่ายภาพหน้าบ้านเป็นที่ระลึกซึ่งเป็นป้ายบ้านเลขที่ 221 B ถนน Baker อันเป็นห้องเช่าที่ Sherlock Holmes ได้พบกับนายแพทย์วัตสันครั้งแรกในตอน แรงพยาบาท  และต่อมานายแพทย์ผู้นี้ก็ได้กลายเป็นเพื่อนคู่หูของเค้านั่นเอง

หอศิลป์แห่งชาติ (National Gallery)

หอศิลป์แห่งชาติลอนดอนเป็นที่เก็บรวบรวมภาพเขียนระดับชาติตามประเพณียุโรปตะวันตกตั้งแต่ ศตวรรษที่ 13 ถึงศตวรรษที่ 19 ที่มีมากกว่า 2,300 ผลงาน รวมทั้งผลงานที่มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมาก เช่น ยานฟานเอคของ Arnolfini Portrait, Velázquez ของ Rokeby วีนัส, เทอร์เนอ Fighting Temeraire และฟานก็อกฮ์ทานตะวัน ซึ่งผลงานเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการสำรวจที่สมบูรณ์ของจิตรกรรมของยุโรปในช่วงยุคนั้น จึงทำให้หอศิลป์แห่งนี้ได้รับการยกย่องอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ศิลปะชั้นนำของโลก

สโตนเฮนจ์ (Stonehenge)

สโตนเฮนจ์ ตั้งอยู่กลาง ทุ่งราบซัลลิสเบอร์รี (Salisbury Plain) บริเวณตอนใต้ของเกาะอังกฤษ สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเพราะบริเวณโดยรอบนั้นไม่มีสิ่งปลูกสร้างอื่นใดเลย มีจำนวนแท่งหินทั้งหมด 112 ก้อน ตั้งเรียงเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง และวางเรียงในลักษณะที่ต่างกัน ทั้งวางนอน วางพาดกัน และวางตั้งขึ้น นักวิทยาศาสตร์ได้คำนวณอายุของหินกลุ่มนี้ พบว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นมาเมื่อประมาณ 3,000–2,000 ปีก่อนคริสตกาล รวมแล้วอายุกว่า 5,000 ปี

ปราสาทอ็อกฟอร์ด (Oxford Castle)

ปราสาทอ็อกฟอร์ด(Oxford Castle) เป็นปราสาทขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 11 – 12 ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของเมือง Oxford ประเทศอังกฤษ โดยตัวปราสาทเดิมส่วนใหญ่ถูกล้อมรอบด้วยคูน้ำกว้าง ไม้ และกำแพงปราสาทชั้นนอกที่ถูกแทนที่ด้วยหิน ในศตวรรษที่ 11 อีกทั้งมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ขัดแย้งของอนาธิปไตย ในช่วงศตวรรษที่ 14 จึงทำให้บริเวณส่วนใหญ่ของปราสาทได้รับความเสียหายในช่วงสงครามกลางเมืองอังกฤษและช่วงศตวรรษที่ 18 โดยอาคารที่หลงเหลืออยู่ได้แปรสภาพเป็นเรือนจำท้องถิ่นใน Oxford ซึ่งเป็นเรือนจำแห่งใหม่ที่ได้สร้างขึ้นต่อมาในปี ค.ศ. 1785 และขยายพื้นที่อีกในปี ค.ศ. 1876 จนกลายเป็น HM Prison Oxford

พิพิธภัณฑ์สงครามจักรวรรดิ (Imperial War Museums)

พิพิธภัณท์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับแง่มุมต่างๆของสงครามตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นต้นมาในแบบที่ดูใกล้ตัวมากกว่าเพราะมีจุดประสงค์เพื่อให้เห็นถึงผลกระทบของสงครามต่อชีวิตประชาชนปกติ ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน เขต Lambeth ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1917 เป็น 1 ใน 5 พิพิธภัณฑ์สงครามในประเทศอังกฤษ

ปราสาทวอริก (Warwick Castle)

เป็นปราสาทสมัยกลางที่ตั้งอยู่ที่เมืองวอริก ประเทศอังกฤษ ตัวปราสาทตั้งอยู่บนเนินบนโค้งแม่น้ำเอวอน สร้างโดยสมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1068 จุดประสงค์ของสิ่งก่อสร้างก็เพื่อใช้เป็นป้อมปราการในการป้องกันการโจมตี เดิมปราสาทสร้างด้วยไม้แบบปราสาทเนิน แต่ต่อมาสร้างใหม่ด้วยหินในคริสต์ศตวรรษที่ 12

จำนวนผู้เข้าชม 53 ครั้ง