
06
Mar
ญี่ปุ่น
5 จุดเช็คอิน | ใบไม้เปลี่ยนสีที่โตเกียว
โตเกียว เมืองหลวงประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้มีดีแค่ตึกสูงระฟ้า และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่สวยงามในช่วงฤดูใบไม้ร่วงอีกด้วย โดยตั้งแต่ในช่วงกลางเดือนตุลาคมไปจนถึงต้นเดือนธันวาคมนั้น สวนสาธารณะ และภูเขารอบ ๆ เมืองจะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีแดง เหลือง และส้มจากต้นเมเปิ้ล และแปะก๊วยอย่างสวยงาม ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินเล่น ชมวิว และเก็บภาพความประทับใจได้อย่างดีเยี่ยม! ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นเป็นช่วงเวลาที่สวยงาม และโรแมนติกที่สุดช่วงหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะที่โตเกียว และพื้นที่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีมากมายให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เช็คอินเพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติ ตั้งแต่สวนสาธารณะใจกลางเมือง ไปจนถึงหุบเขาในชนบท สำหรับใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อสัมผัสบรรยากาศอันงดงามของใบไม้เปลี่ยนสี แต่ยังไม่ได้วางแผนการเดินทางตั้งแต่ต้น หรือไม่รู้ว่ามีที่ไหนที่น่าสนใจในช่วงฤดูใบไม้ร่วงบ้าง มหานครทัวร์ ขอแนะนำ 5 สถานที่ยอดนิยมสำหรับคุณ ได้เยี่ยมชมใบไม้เปลี่ยนสีในโตเกียว และบริเวณรอบ ๆ ไปพร้อมกัน รวมถึงร้านคาเฟ่ที่คุณไม่ควรพลาด!
1. สวนริคุงิเอ็น (Rikugien Garden) - สวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมกลางเมือง
หนึ่งในสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่สวยที่สุดในโตเกียวโดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ภายในสวนมีบึงน้ำที่สะท้อนเงาธรรมชาติ ตัดสลับสีแดงสดของต้นเมเปิ้ล และสะพานหินโบราณอย่างสวยงาม เส้นทางเดินให้บรรยากาศที่เงียบสงบ และคลาสสิก เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินชมใบไม้ร่วงกันแบบฟิน ๆ ซึ่งจุดเด่นของที่นี่คือการจัดแสดงไฟไลท์อัพในช่วงเย็น ที่ทำให้บรรยากาศโดยรอบมีความโรแมนติก และน่าหลงใหลไปอีกขั้น! ร้านคาเฟ่แนะนำ
เกร็ดความรู้
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม เวลาเข้าชม: 09:00 - 17:00 น. โดยช่วงที่มีไฟไลท์อัพ (เฉพาะบางปี) จะเปิดสวนถึง 21:00 น. ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ประมาณ 70 บาท, ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) ประมาณ 40 บาท, เด็กเข้าชมฟรี การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย JR Yamanote หรือ Namboku Line ลงที่สถานี Komagome แล้วเดินต่อประมาณ 7 นาที

ภายในสวนริคุงิเอ็น (Rikugien Garden)
2. สวนโชวะ คิเนน (Showa Kinen Park) - อุโมงค์แปะก๊วยสุดอลังการ
สวนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่เมืองทาจิคาวะ (Tachikawa) ชานเมืองโตเกียว สถานที่เที่ยวประจำฤดูกาลที่เหมาะแก่การเยี่ยมชมใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งจุดเด่นของที่นี่คือ อุโมงค์ต้นแปะก๊วย ที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอร่ามในช่วงฤดูใบไม้ร่วงอย่างสวยงาม รวมถึงพื้นที่สวนที่มีความกว้างขวางเหมาะสำหรับการเดินเล่น ถ่ายรูปชิค ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก หรือจะปิกนิกก็ยังได้ อีกทั้งที่นี่ยังมีลานดอกไม้ตามฤดูกาล และทะเลสาบที่เงียบสงบให้คุณได้สัมผัสอีกด้วย บอกเลยว่ามาแล้วจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน! ร้านคาเฟ่แนะนำ
เกร็ดความรู้
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: กลาง - ปลายเดือนพฤศจิกายน
เวลาเข้าชม:
- มีนาคม - ตุลาคม 09:30 - 17:00 น.
- พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ 09:30 - 16:30 น.
- เมษายน - กันยายน 09:30 - 18:00 น.
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ประมาณ 100 บาท, ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) ประมาณ 50 บาท, เด็กเข้าชมฟรี
การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR Chuo Line ลงที่สถานี Tachikawa แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที

สวนโชวะ คิเนน (Showa Kinen Park)
3. สวนเมจิจิงกู ไกเอน (Meiji Jingu Gaien) - ถนนต้นแปะก๊วยที่โด่งดัง
มาต่อกันแบบไม่ต้องพักกับสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โดดเด่นที่สุดในโตเกียวอีกหนึ่งแห่ง โดยเฉพาะทางเดินต้นแปะก๊วยสีเหลืองทองอร่ามที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง สร้างทัศนียภาพที่สวยงาม และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ด้วยบรรยากาศโรแมนติก และความน่าหลงใหลของที่นี่ เหมาะสำหรับคนที่อยากดื่มด่ำกับความงดงามของธรรมชาติ ท่ามกลางความเงียบสงบถึงแม้จะอยู่ใจกลางเมืองก็ตาม เรียกได้ว่าสวนเมจิจิงกูนั้นสวยงามราวกับฉากในภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ ร้านคาเฟ่แนะนำ
เกร็ดความรู้
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: กลาง - ปลายเดือนพฤศจิกายน
เวลาเข้าชม: เข้าชมได้ตลอดทั้งวัน
ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี
การเดินทาง: นั่งรถไฟ Tokyo Metro Ginza Line, Hanzomon Line หรือ Oedo Line ลงที่สถานี Aoyama-itchome

สวนเมจิจิงกู ไกเอน (Meiji Jingu Gaien)
4. ภูเขาทาคาโอะ (Mount Takao) - จุดชมวิวธรรมชาติใกล้โตเกียว
เที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีในเมืองกันหลายที่แล้ว เรามาเอาใจสำหรับคนที่อยากออกไปสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติที่นอกเมืองกันบ้างดีกว่า กับภูเขาทาคาโอะ ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมให้กับเหล่านักท่องเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงได้ชมวิวทิวทัศน์กันแบบเต็มอิ่ม ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น คุณก็จะได้พบกับเส้นทางเดินป่าที่รายล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีสุดตระการตา และจุดชมวิวหลักล้านที่สามารถมองเห็นโตเกียวได้อีกด้วย ร้านคาเฟ่แนะนำ
เกร็ดความรู้
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ต้น - กลางเดือนพฤศจิกายน
เวลาเข้าชม: เข้าชมได้ตลอดทั้งวัน
ค่าเข้าชม:
- เข้าชมฟรี (มีค่าใช้จ่ายเมื่อใช้กระเช้า และลิฟต์)
- กระเช้าลอยฟ้า เที่ยวเดียวประมาณ 120 บาท / ไป-กลับประมาณ 220 บาท
- ลิฟต์ขึ้นเขา เที่ยวเดียวประมาณ 120 บาท / ไป-กลับประมาณ 220 บาท
การเดินทาง: นั่งรถไฟ Keio Line ลงที่สถานี Takaosanguchi แล้วขึ้นกระเช้าหรือเดินขึ้นภูเขา

กระเช้าลอยฟ้า ที่ภูเขาทาคาโอะ (Mount Takao)
5. ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) - ใบไม้แดงกับวิวภูเขาไฟฟูจิ
ปิดท้ายด้วยทะเลสาบที่สะท้อนสีสันของใบไม้เปลี่ยนสีอย่างสวยงาม หากคุณมีเวลาเดินทางออกนอกโตเกียวอีกเล็กน้อย “ทะเลสาบคาวากุจิโกะ” ก็เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่คุณจะได้เห็นใบไม้หลากสี ทั้งสีแดงสด สีส้มเหลือง กำลังสะท้อนกับผืนน้ำในทะเลสาบอย่างสวยงาม และมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิที่ยิ่งใหญ่ จนเกิดเป็นภาพเหนือจินตนาการ และงดงามราวกับภาพโปสการ์ดเลยทีเดียว หากคุณไม่ได้มาเช็คอินที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ จะถือว่าคุณพลาดวิวหลักล้านอย่างน่าเสียดาย! ร้านคาเฟ่แนะนำ
เกร็ดความรู้
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ต้น - กลางเดือนพฤศจิกายน
เวลาเข้าชม: เข้าชมได้ตลอดทั้งวัน
ค่าเข้าชม:
- เข้าชมฟรี (มีค่าใช้จ่ายเมื่อใช้กระเช้า)
- กระเช้าลอยฟ้า เที่ยวเดียวประมาณ 120 บาท / ไป-กลับประมาณ 200 บาท
การเดินทาง: นั่งรถไฟจากสถานี Shinjuku ไปยังสถานี Kawaguchiko

ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko)
เกล็ดความรู้สำหรับนักท่องเที่ยว ในการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น
สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี มหานครทัวร์ แนะนำให้เช็คพยากรณ์อากาศล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง เนื่องจากสภาพอากาศแต่ละปีนั้นจะแตกต่างกันไป เพื่อป้องกันไม่ให้เสียเที่ยวเมื่อไปถึงจุดหมายนั่นเอง และควรเลือกวันธรรมดาเพื่อหลีกเลี่ยงคนที่แออัด เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมักจะมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากไปเช็คอินกัน โดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์ สุดท้ายนี้ หากคุณต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสี สามารถเช็คทัวร์ต่างประเทศราคาถูก คุ้มค่า และสะดวกต่อการเดินทางได้ที่! รวมทัวร์โตเกียว และอย่าลืมติดตามบทความใหม่ ๆ จาก มหานครทัวร์ เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ และเลือกสถานที่เที่ยวได้แบบที่คุณต้องการ!