16
Jan
ตุรกี
12 ที่เที่ยวในตุรกีที่สวยจนต้องจดลงลิสต์
ตุรกี ดินแดนสองทวีปที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่งดงาม ไม่ว่าคุณจะชอบความตื่นเต้นของการผจญภัย ชื่นชมความอลังการของสถาปัตยกรรม หรือหลงใหลในวิวทิวทัศน์อันงดงาม ตุรกีมีทุกอย่างที่ตอบโจทย์การเดินทางของคุณ มาเปิดประสบการณ์ใหม่ไปกับ 12 สถานที่เที่ยวในตุรกีที่เราได้คัดสรรมาให้ รับรองว่าคุณจะต้องหลงรักประเทศนี้จนอยากกลับไปอีกครั้ง!
อันตัลยา (Antalya)
อันตัลยา (Antalya) หรือเมืองตากอากาศริมทะเลของประเทศตุรกี ที่สามารถเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมทั้งชื่นชมบรรยากาศโดยรอบไปกับความสวยงามของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้อย่างเต็มเปี่ยม โดยสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ จึงทำให้มีความโดดเด่นในเรื่องของวิวทิวทัศน์ของทะเล และภูเขาที่รายล้อมอยู่บริเวณโดยรอบ
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum)
เป็นสถานที่ทางจิตวิญญาณอันเกิดจากการสลักหิน ที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้เข้าใจถึงอิทธิพลของศาสนาในสมัยโบราณ และเรียนรู้เรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของบรรพบุรุษชาวคัปปาโดเชียน (Cappadocian) ได้ดีที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นบริเวณที่สามารถนั่งดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์โดยรอบอันงดงาม
พระราชวังโทพคาปี (Topkapı Palace)
พระราชวังโทพคาปี หรือพระราชวังทอปกาเปอะ (Topkapı Sarayı) ในปัจจุบันคือ พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ในนครอีสตันบูล, ประเทศทูร์เคีย (Turkiye; Türkiye ทูร์กีเย) โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐทูร์เคีย (the Republic of Türkiye) หรือที่เรารู้จักในชื่อเดิม ประเทศตุรกี (Turkey) พิพิธภัณฑ์ซึ่งมีประวัติความเป็นมาเกือบ 600 ปี โดยในปี ค.ศ. 1453 สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 แห่งจักรวรรดิออตโตมัน (Sultan Mehmed II) สามารถพิชิตกรุงคอนสแตนติโนเปิลไว้ได้
ปามุคคาเลย์ (Pamukkale)
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวตุรกีที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก
แถมยังมีอีกชื่อที่เรียกว่า ปราสาทปุยฝ้าย
ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องมาหากเดินทางมาที่ประเทศตุรกีแห่งนี้
เนื่องจากปามุคคาเลย์เป็นสถานที่ทางธรรมชาติที่มีความโดดเด่นจากแอ่งน้ำสีฟ้า
ซึ่งเกิดมาจากแอ่งน้ำหินปูนแล้วถูกกัดเซาะจนเกิดเป็นความสวยงามที่ลงตัว
เมืองใต้ดินเคย์มากลิ (Kaymakli underground city)
สถานที่แห่งนี้นั้นตั้งอยู่บริเวณใต้ดินที่ลึกลงไป
และเปรียบเสมือนเมืองอีกแห่งหนึ่งที่มีลักษณะปกติเหมือนเมืองทั่วไป
ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าต่าง ๆ โบสถ์ ห้องพัก หรือแม้กระทั่งร้านอาหารทั่วไป
พาซาแบค (Pasabag)
พาซาแบค (Pasabag) หรือที่นิยมเรียกกันว่าหุบเขาพระ (Monks Valley) ที่เป็นภูเขาหินในรูปทรงแปลกตา เหมือนกรวยที่มีหมวกวางอยู่ด้านบน แต่ก่อนเคยเป็นสำนักสงฆ์มาก่อน จึงทำให้หลายครั้งที่บริเวณนี้ มีคนเรียกว่าเป็น The Valley of Monks
พิพิธภัณฑ์ฮาเกียโซเฟีย (Hagia Sophia)
พิพิธภัณฑ์ฮาเกียโซเฟีย (Hagia
Sophia) หรือ ที่รู้จักอีกชื่อหนึ่งว่า สุเหร่าโซเฟีย
เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวตุรกีที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
เนื่องจากสมัยก่อนนั้นสุเหร่าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์
และได้ถูกดัดแปลงในภายหลังสองรอบด้วยกัน โดยในรอบแรกนั้นถูกดัดแปลงให้กลายเป็นสุเหร่า
ต่อมาค่อยถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์อันยิ่งใหญ่ที่มีการออกแบบสถาปัตยกรรมที่งดงามอย่างอลังการ
โดยภายในสุเหร่าแห่งนี้นั้นถือได้ว่ามีความสวยงามเป็นอย่างมาก
เนื่องจากมีการตกแต่งภายในโดยใช้โทนสีฟ้าเป็นหลัก
ฮิปโปโดรม (Hippodrome)
ฮิปโปโดรม (Hippodrome) หรือ จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต (Sultanahmet Square, Sultanahmet Meydanı) เป็นจัตุรัสกลางเมืองที่แต่เดิมนั้นใช้เป็นสถานที่แข่งม้าและจัดงานเฉลิมฉลองของกรุงคอนสแตนติโนเปิล ปัจจุบันยังคงเป็นสถานที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์โบราณ และเป็นจุดนัดพบยอดนิยมของอิสตันบูล
ห้องสมุดเซลซุส (The Library of Celsus)
ห้องสมุดเซลซุสเป็นอีกหนึ่งสถานที่มีความสวยงามและขนาดใหญ่มาก มีทางเข้า 3 ทาง บริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ เป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่าสายที่อินหนังเทพเจ้าและชื่นชอบวิชาประวัติศาสตร์ต้องชอบมากแน่ๆ ถึงในปัจจุบันจะเหลือเพียงเฉพาะด้านหน้าของอาคารเท่านั้นแต่สถานที่แห่งนี้ก็ยังคงความงดงามและถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ได้อย่างดี
คัปปาโดเชีย (Cappadocia)
เมืองยอดนิยมแห่งการขึ้นบอลลูนไม่ว่าใครมาในประเทศตุรกี ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษเพื่อดูธรรมชาติในลักษณะแปลกตา และบอลลูนสีสันสดใสสัน ถ่ายรูปได้สวยทุกมุมพี่เห็ดแนะนำที่นี่เลยต้องได้ขึ้นบอลลูนไปชมความสวยงาม
พระราชวังโดลมาบาเช่ (Dolmabahce Palace)
พระราชวิงที่จุดถ่ายรูปสวยๆเยอะมาก พระราชวังโคลมาบาห์เช สร้างโดยสุลต่านอับดุลเมจิต ในปี ค.ศ. 1843 - 1856 ยุคปลายอาณาจักรออตโดมัน เป็นพระราชวังสุดหรูหราอลังการ ที่ทุ่มสร้างคิดเป็นเงินในปัจจุบันถึงประมาณพันล้านเหรียญสหรัฐเลยที่เดียว พระราชวังโคลมา บาห์เชห์สะท้อนถึงความ คลั่งไคล้ยุโรปของสุลตานอับดุลเมจิต ออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ปากทางเข้ามีหอนาฬิกาสไตล์บารอกตั้งเด่นหรา
มัสยิดสีน้ำเงิน (Blue Mosque)
สร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอาห์เมตที่ 1 ในปีค.ศ. 1609 ถึง 1616 มีแรงบันดาลใจในการสร้างคือต้องการเอาชนะหรือสร้างมัสยิดให้มีขนาดใหญ่กว่าวิหารเซนต์โซเฟียของศาสนาคริสต์ เพราะวิหารเซนต์โซเฟียเคยเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง มีสุลต่านหลายพระองค์ต้องการสร้างมัสยิดที่มีขนาดใหญ่กว่าวิหารเซนต์โซเฟียมาแทบทุกยุคสมัยแต่ไม่มีใครทำสำเร็จ มีเพียงสุลต่านอาห์เมตที่ 1 และเมห์เมตอาอา (Mehmet) สถาปนิกผู้ออกแบบ เขาต้องการให้โลกรู้ว่าเขามีความสามารถเหนือกว่าผู้ออกแบบวิหารเซนต์โซเฟีย จึงออกแบบให้มีขนาดใหญ่และอลังการกว่าวิหารเซนต์โซเฟีย