เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์ :

09.00 - 18.00 น.

Hotline

082-585-6868

เราช่วยคุณได้

@mahanakhontour

Travel License : 11/12716

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

ดินแดนแห่งกังหันลม เนเธอร์แลนด์

ดินแดนแห่งกังหันลม เนเธอร์แลนด์

24

Dec

เนเธอร์แลนด์

ดินแดนแห่งกังหันลม เนเธอร์แลนด์

เนเธอร์แลนด์เป็นดินแดนแห่งกังหันลม ทุ่งดอกทิวลิป และคลองสุดโรแมนติก ที่ผสานธรรมชาติ วัฒนธรรม และศิลปะไว้ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเที่ยวชมหมู่บ้านกีธูร์น เมืองอัมสเตอร์ดัม หรือพิพิธภัณฑ์ชื่อดัง ที่นี่มีเสน่ห์ดึงดูดทุกไลฟ์สไตล์!

พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะห์ (Van Gogh Museum)

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดว่าเป็นแลนด์มาร์ค สไตล์โมเดิร์น ที่ได้มีการรวบรวมศิลปะ ผลงานของจิตรกรชื่อดังอย่างวินเซนต์ แวนโก๊ะห์เอาไว้ให้ได้เดินดูกันแบบจุใจ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองหลวงอย่างอัมสเตอร์ดัม

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งอัมสเตอร์ดัม (Rijksmuseum)

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งอัมสเตอร์ดัม หรืออ่านว่า ริกส์มิวเซียม ดูภายนอกก็เห็นถือว่าสวยงามของดีไซน์ อันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความเก่าแก่มาก เพราะมีอายุมากกว่า 200 ปีมาแล้วด้วยกัน ด้านในจะเต็มไปด้วยงานศิลปะที่ประเมินค่าไม่ได้มากมายกว่า 8,000 ชิ้น

บ้านคิวบิกเฮ้าส์ (Cube Houses)

รูปทรงของบ้านที่เป็นแบบลูกบาศก์นั่นเอง มองเห็นเด่นมาแต่ไกลด้วยรูปทรงของบ้าน ประกอบกับสีสันที่สดใสของบ้านทรงลูกบาศ์กนี้ ทำให้กลายมาเป็นจุดถ่ายรูปสุดฮิตของเนเธอร์แลนด์ โดยสิ่งที่โดดเด่นของที่เที่ยวเนเธอร์แลนด์นี้ก็คือทรงบ้านที่ด้านบนออกแบบเป็นลูกบาศ์กแทนที่จะเป็นหลังคาบ้านปกติ แต่ด้วยความที่ดีไซน์ด้านเป็นแบบนี้ ใช่ว่าด้านในบ้านจะใช่การไม่ได้ พื้นที่ใช้สอยของบ้านจะมีทั้งหมด 100 ตารางเมตร และสามารถใช้งานได้จริง

สวนเคอเคนฮอฟ (Keukenhof)

ที่เที่ยวสำคัญของเมืองเนเธอร์แลนด์ ที่เป็นทั้งแหล่งปลูกทิวลิปที่มีความใหญ่ และความสำคัญมากที่สุดของประเทศเนเธอร์แลนด์เลยทีเดียว เมื่อก้าวเข้าไปด้านในคุณจะเห็นได้ถึงทุ่งทิวลิปหลากสีสัน รายล้อมไปด้วยดอกทิวลิปมากมายกว่า 7 ล้านต้น นอกจากนั้นยังมีดอกไม้พันธุ์ต่างๆ ที่เป็นพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นในทุกปี ไม่ใช่เพียงแค่ถ่ายรูปสวยแต่เพียงเท่านั้น ทว่าสวนเคอเคนฮอฟยังเป็นที่เที่ยวเนเธอร์แลนด์ที่มีบรรยากาศดี

หมู่บ้านกังหันลมซานส์ สคานส์ (Zaanse Schans)

พื้นที่อุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ มีกังหันลมนับร้อยแห่งซึ่งชาวดัชท์ใช้กังหันลมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เนื่องจากพื้นที่ของตัวเองจมอยู่ใต้น้ำ กังหันลมจึงเป็นตัววิดน้ำออกจากไร่นาและที่อยู่อาศัย ปัจจุบันกังหันลมก็เริ่มถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรม อย่างการเลื่อยไม้เพื่อต่อเรือเดินทะเล ผลิตสีทาไม้ น้ำมัน มัสตาร์ด กระดาษ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ได้ถูกจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านขายของที่ระลึก และศูนย์ฝึกอบรม มาถึงแล้วก็ควรเที่ยวชมภายในหมู่บ้านกังหันลมได้

ตลาดดอกไม้บลูเมนมาร์ค (Bloemenmarkt)

หนึ่งในตลาดดอกไม้ชื่อดังระดับโลก เพราะว่าเป็นตลาดดอกไม้ลอยน้ำเพียงแห่งเดียวของโลก มีโครงสร้างของร้านดอกไม้ที่ลอยอยู่บนโป๊ะเหนือคลองที่เก่าแก่มากที่สุดของเมืองอัมสเตอร์ดัม

เมืองจำลองมาดูโรดัม (Madurodam)

สถานที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยที่เที่ยวต่างๆ ในขนาดย่อส่วน มีเมืองจิ๋วมากมายหลายเมือง ที่ไม่ใช่มีแค่ตัวตึกอาคารแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงรางของรถราง และรางรถไฟจำลอง ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นรางที่มีความยาวมากที่สุดในโลกอีกด้วย โดยเมืองจำลองแห่งนี้จะมีขนาด 1:25 ให้คุณได้มองเห็นเมืองเนเธอร์แลนด์ในรูปแบบย่อส่วนได้อย่างถนัดตา

กีโธร์น (Giethoorn)

“กีโธร์น (Giethoorn)” หรือหมู่บ้านไร้ถนน อันเป็นหมู่บ้านที่ผู้คนใช้การสัญจรกันทางเรือเป็นหลัก ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ได้ถูกขนานนามว่าเป็นหมู่บ้านที่ไม่มีถนน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ได้ตั้งอยู่ระหว่างเมืองZwolle และ Steenwijk หน้าบ้านแต่ละบ้านจะมีเรือ เพราะว่าจะไปไหนมาไหนจะต้องพายเรือ และใช้เรือในการสัญจรเป็นหลัก โดยรอบคลองที่คดเคี้ยวจะเต็มไปด้วยบ้านคน ล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศของความเป็นธรรมชาติ และบ้านที่ถูกสร้างด้วยสไตล์ตะวันตก นับว่าเป็นหมู่บ้านที่ไม่ใช่แค่บ้านสวยอย่างเดียว แต่รอบๆหมู่บ้านยังบรรยากาศดีมากอีกด้วย

หมู่บ้านบูร์แตง (Bourtange)

หมู่บ้านนี้ได้ตั้งอยู่ด้านหลังป้อมปราการบูร์แตง โดดเด่นด้วยการวางผังหมู่บ้านในรูปดาว ที่ด้านในจะมีบ้านเป็นหลัง ๆ ล้อมรอบไปด้วยคูน้ำ ซึ่งคูน้ำนี้จะช่วยปกป้องเมืองได้เป็นอย่างดี ซึ่งแต่ก่อนนั้นเองบริเวณนี้คือป้อมปราการ แต่ได้ถูกเปลี่ยนเป็นหมู่บ้านในช่วงเวลาถัดมา จึงได้ถูกอนุรักษ์ไว้เป็นพิพิธภัณฑ์อันสำคัญของเนเธอร์แลนด์

เมืองเดลฟท์ (Delft)

เมืองเล็ก ๆ สุดน่ารัก ที่เต็มไปด้วยความชิค และมุมถ่ายรูปสวย ๆ อย่างเมืองเดลฟท์ ที่เที่ยวเนเธอร์แลนด์ที่ตั้งอยู่ในภาคเซาท์ฮอลแลนด์ ค่อนไปทางใต้ของประเทศ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่ง Princes’s Town แม้ว่าจะไม่ใช่เมืองหลวง แต่ความเป็นมาน่าสนใจเลยทีเดียว นอกเหนือจากบรรยากาศ และความเป็นธรรมชาติที่น่าสนใจของเดลฟท์ สินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ และสำคัญของเดลฟท์คือเครื่องลายคราม

บ้านแอนน์แฟรงค์ (Anne Frank House)

สถานที่ท่องเที่ยวเนเธอร์แลนด์มีมากมาย และอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดก็คือ พิพิธภัณฑ์บ้านแอนน์แฟรงค์ แหล่งรวบรวมสิ่งของและสมุดบันทึกเล่มจริงของแอนน์แฟรงก์ ผู้ประสบชะตากรรมในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เธอใช้เป็นสถานที่หลบซ่อนการตามล่าของกองทัพนาซียาวนานกว่า 2 ปี ซึ่งในที่สุดก็ถูกจับได้และถูกส่งตัวไปยังค่ายกักกัน สุดท้ายเธอก็ได้จากไปด้วยโรคไข้รากสาดใหญ่ก่อนที่สงครามจะสิ้นสุดลง ที่เที่ยวเนเธอร์แลนด์แห่งนี้จึงเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก ใครที่มีความสนใจในด้านประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาด

สวนสัตว์หลวงอาทิส (Artis Royal Zoo)

เป็นสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุด 1 ใน 3 ของกรุงอัมสเตอร์ดัม ที่แต่เดิมเป็นพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยา ห้องสมุดสัตววิทยา และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเมื่อปี ค.ศ. 1852 พร้อมสัตว์นานาชนิดกว่า 8,000 ตัว

โบสถ์เซนต์นิโคลัส (Basilica of St Nicholas)

เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิกมีสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงาม ความโดดเด่นของโบสถ์นี้คือ หอคอยแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่ หน้าต่างประดับกระจกหลากสี ยอดโดมและโคมไฟสไตล์บาโรก เป็นจุดแลนด์มาร์คสำคัญจุดหนึ่งของเมือง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากที่สุดจุดหนึ่ง

ปราสาทมุยเดอร์สล็อท (Muiderslot Castle)

ปราสาทแห่งนี้มีดีไซน์ที่สวยเก่าแก่ และมีความคลาสสิกเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากความคลาสสิกแล้วนั้น ที่เที่ยวเนเธอร์แลนด์แห่งนี้ยังเป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในเนเธอร์แลนด์อีกด้วย หากคุณได้มีโอกาสได้ไปเยือนปราสาทแห่งนี้ ก็อย่าลืมพกชุดสวย ๆ ไปยืนถ่ายรูป เพราะไม่ใช่แค่ปราสาทเท่านั้นที่สวยงาม แต่ยังรวมไปถึงโลเคชันรอบข้าง เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณที่ปากแม่น้ำ Vecht ด้วย

พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ (Eye Film Museum)

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดูล้ำสมัย และมีความน่าสนใจตั้งแต่ภายนอกอาคารที่มีความโมเดิร์นเป็นอย่างมาก ดูเผิน ๆ เหมือนกับยานอวกาศ จุดประสงค์หลักคือ ที่นี่จะมีภาพยนตร์ฉายให้ชมกันตลอดทั้งวัน วันละ 4 เรื่อง แต่นักเดินทางจะต้องเช็กรอบฉายมาให้ดีก่อน เพราะถ้าหากมาไม่ตรงรอบ ก็อาจจะพลาดที่จะได้ชมหนังดี ๆ ไป นอกจากนั้นยังมีส่วนจัดแสดงนิทรรศการหนังที่น่าสนใจอีก ด้วยราคาค่าเข้าชมประมาณ 10.50 ยูโร

จำนวนผู้เข้าชม 38 ครั้ง